KEY
POINTS
นายทีปกร โลจนะโกสินทร์ ประธานกรรมการบริหาร เดอมาสเตอร์ (Dermaster) กล่าวว่า เดอมาสเตอร์ได้เปิดตัวโรงพยาบาลเดอมาสเตอร์ ราชพฤกษ์ ต่อยอดธุรกิจความงาม สู่โรงพยาบาลศัลยกรรมความงามและสุขภาพแบบองค์รวมระดับพรีเมียม ที่เน้นการลงทุนในมาตรฐานทางการแพทย์ระดับสากล และประสบการณ์ลูกค้า (Experience Journey) ด้วยเงินลงทุนกว่า 350 ล้านบาท
รองรับฐานลูกค้าฝั่งธนบุรีและปริมณฑล รวมประชากรราว 1 ล้านคน หรือประมาณ 4 แสนครัวเรือน ซึ่งมักมีปัญหาเรื่องการเดินทางไปใช้บริการในเขตใจกลางเมือง แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่การลงทุนในสาขาใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ BU Hospital (Boutique Hospital) เน้นบริการด้วยมาตรฐานสูงและประสบการณ์ลูกค้ากลุ่มใหญ่ คาดว่าผลประกอบการในปี 2568 จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 30-40%
“บริษัทฯ เราได้ใช้เวลากว่า 14 ปี ในการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจุบันมี 4 สาขาแบบ Standalone และสาขาใหม่ล่าสุดนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ ที่จะชูมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์เป็นหัวใจหลัก เพื่อแข่งขันตลาดศัลยกรรมและเสริมความงามระดับพรีเมียม โดยเน้นย้ำถึงนโยบายการใช้แพทย์เฉพาะทางที่เป็น ‘บอร์ด’ (Board-certified) ในทุกด้าน 100%”
ปัจจุบันในประเทศไทยมีศัลยแพทย์ที่เป็นบอร์ด และแพทย์ผิวหนังที่เป็นบอร์ด รวมกันทั่วประเทศเพียงประมาณ 400 กว่าคน เท่านั้น การจำกัดนี้ทำให้การขยายสาขาของเดอมาสเตอร์เป็นไปอย่างช้าๆ แต่สามารถรับประกันคุณภาพที่มั่นคงได้ ด้วย Customer Safety Eccentric ปรัชญาการทำงานของทีมแพทย์คือการทำธุรกิจบนความไม่ประมาท
นายทีปกร กล่าวว่า เดอมาสเตอร์เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการความงามที่ปฏิเสธเคสลูกค้ามากที่สุด เพราะหากมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยแม้เพียง 1% จะงดรับเคสทันที โดยแพทย์จะยึดหลัก ‘Discover Your True Beauty’ โดยผลลัพธ์คือ "สวยขึ้น แต่ไม่รู้ว่าทำอะไรมา" ทีมแพทย์จะไม่ตามใจลูกค้า หากการทำศัลยกรรมนั้นเกินกว่าที่ร่างกายจะรับได้ หรือเป็นไปตามกระแสแฟชั่น
โดยโรงพยาบาลเดอมาสเตอร์ เป็นขนาดเล็กเฉพาะทาง แต่ระบบห้องผ่าตัดและมาตรฐานต่างๆ ถูกสร้างให้มีมาตรฐานเทียบเท่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศหรือระดับโลก มุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ลูกค้า (Experience Journey) และการผสานบริการ (Integration) พร้อมรองรับการแข่งขันในตลาดความงามปี 2569
“ตอนนี้สัดส่วนลูกค้าของเราคือคนไทย 70% และต่างชาติ 30% ซึ่งต่างจากช่วงก่อนโควิด-19 ที่ลูกค้าต่างชาติมีสัดส่วนสูงถึง 60% และการที่บริษัทฯ อยู่รอดในช่วงโควิด-19 เนื่องมาจากมีฐานลูกค้าคนไทยแข็งแกร่ง ซึ่งเราทำราคาเท่ากับคลินิกที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า แต่ลูกค้าจะได้รับ Value และประสบการณ์ที่เหนือกว่า เนื่องจากมาตรฐานด้านแพทย์และสิ่งอำนวยความสะดวก โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือกลุ่มระดับ B ขึ้นไป”
อย่างไรก็ตาม ในปี 2569 เดอมาสเตอร์ จะใช้กลยุทธ์การผสานบริการศัลยกรรมและ Anti-aging เข้าด้วยกัน รวมถึงการนำเสนอโปรแกรม Subscription ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง คาดว่าจะสามารถรักษาเสถียรภาพและโมเมนตัมการเติบโตไว้ได้ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว ด้วยจุดยืนที่เน้นความปลอดภัย (Safety) และความจริงใจ (Sincerity) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคที่มีการศึกษามักจะเลือกใช้บริการมากกว่าการตัดสินใจจากรีวิวหรือราคาที่ถูกเกินจริง