รมว.สธ. สั่งด่วนเปิด PHEOC ทุกจังหวัด ช่วยประชาชนวิกฤติน้ำท่วม

24 พ.ย. 2568 | 10:40 น.
อัปเดตล่าสุด :24 พ.ย. 2568 | 10:45 น.

รมว.สาธารณสุข ออก 6 ข้อสั่งการพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมใต้ เร่งเปิดศูนย์ PHEOC ทุกจังหวัด รพ.-รพ.สต.ได้รับผลกระทบให้ตั้งจุดบริการชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย สำรวจความเสียหายต่อบุคลากรสถานบริการ วิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการให้บริการใน 72 ชม.ข้างหน้า

24 พฤศจิกายน 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลติดตามสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับ นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดยมีหน่วยงานในพื้นที่ประสบภัย ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์  

นายพัฒนา กล่าวว่า พื้นที่ภาคใต้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงจากการลงพื้นที่พร้อมนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้พบว่า หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง และยังคงมีฝนตกเพิ่มเติม ประกอบกับสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มรองรับน้ำจากแนวภูเขาโดยรอบ และมีทางระบายน้ำไม่มากนัก ทำให้มีความเสี่ยงสถานการณ์รุนแรงขึ้น จึงมีข้อสั่งการ ดังนี้

1. ให้ PHEOC ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที

2. ให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการเยี่ยมบ้านและคัดกรองกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้พิการ ผู้ฟอกไต และผู้สูงอายุ

3. แจกจ่ายยาชุดช่วยเหลือน้ำท่วม ยารักษาโรคเรื้อรัง และอุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างทั่วถึง

4. ให้โรงพยาบาล และ รพ.สต. ที่ได้รับผลกระทบตั้งจุดบริการชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อให้บริการต่อเนื่อง และทบทวนระบบการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินสำรอง

5. ให้เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำ อาหาร น้ำดื่ม สุขาภิบาลในพื้นที่พักพิง และเข้มงวดการควบคุมป้องกันโรคอุจจาระร่วง น้ำกัดเท้า โรคทางเดินหายใจ และโรคจากสัตว์มีพิษ

6. ให้สำรวจความเสียหายต่อบุคลากร สถานบริการ และอุปกรณ์ พร้อมวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการให้บริการในระยะ 72 ชั่วโมงข้างหน้า

นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดูเรื่องแบบก่อสร้างในพื้นที่เสี่ยงภัย หรือประสบอุทกภัยบ่อยๆ หรือพื้นที่รับน้ำซึ่งจะต้องมีการออกแบบในรูปแบบพิเศษ รวมถึงมีระบบท่อประปา ท่อน้ำ ท่อน้ำทิ้งมากขึ้น เพื่อป้องกันและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเกิดสถานการณ์อุทกภัยและให้แต่ละเขตสุขภาพพิจารณาเรื่องรถเคลื่อนที่ที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือช่วยขนย้ายผู้ป่วย กลุ่มเปราะบางพื้นที่ได้ภายใน 12 ชั่วโมงแรกเพื่อส่งเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด