โรงพยาบาลเลิดสิน เปิดศูนย์นวัตกรรม 3D Printing พลิกโฉมการแพทย์ไทย

10 พ.ย. 2568 | 20:41 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ย. 2568 | 20:52 น.

โรงพยาบาลเลิดสิน เปิดตัวศูนย์กลางเทคโนโลยี 3 มิติทางการแพทย์ แห่งแรกของกรมการแพทย์ พลิกโฉมการแพทย์ไทยสู่ยุคดิจิทัล ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ

KEY

POINTS

  • โรงพยาบาลเลิดสินเปิดตัว “ศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์ 3D Printing” แห่งแรกของกรมการแพทย์ เพื่อยกระดับการแพทย์ไทย
  • นำเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติมาใช้สร้างโมเดลอวัยวะและอุปกรณ์นำร่องการผ่าตัด (Cutting Guide) สำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยง
  • ศูนย์ฯ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการวางแผนผ่าตัด การฝึกอบรมแพทย์ การวิจัย และพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ ต่อยอดสู่เศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สถาบันออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิดสิน เปิดตัว “Lerdsin Medical 3D Printing and Innovation Center” ศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์แห่งแรกของกรมการแพทย์ นำนวัตกรรมการพิมพ์ 3 มิติมายกระดับการแพทย์ไทย ตั้งแต่การวางแผนผ่าตัด การรักษาผู้ป่วย การฝึกอบรมแพทย์ ไปจนถึงงานวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม 

ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น พร้อมต่อยอดสู่เศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ และคณะแพทย์จากโรงพยาบาลเลิดสิน จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์จริงในการใช้เทคโนโลยี 3D Printing เพื่อออกแบบและจำลองขั้นตอนการผ่าตัดเฉพาะบุคคลต่อไป

นายแพทย์อดิศักดิ์ งามขจรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า โรงพยาบาลเลิดสิน มีเป้าหมายในการเป็น “ศูนย์กลางนวัตกรรมทางการแพทย์ของประเทศ” มุ่งผลักดันการใช้เทคโนโลยี 3D Printing ในการรักษาและวางแผนการผ่าตัดเฉพาะบุคคล เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มความแม่นยำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไทย ไปจนถึงการฝึกอบรมแพทย์ งานวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม ต่อยอดสู่เศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ

นพ.นวพงศ์ อนันตวรสกุล หัวหน้าศูนย์ Lerdsin Medical 3D Printing and Innovation Center กล่าวว่า ที่ผ่านการผ่าตัดอย่างละเอียดสามารถทำได้ในเชิงทฤษฎี แต่ไม่สามารถทำจริงได้ตามที่วางไว้ทั้งหมด เพราะเครื่องมือหรือเทคโนโลยีไม่เอื้ออำนวยมากพอ แต่เมื่อมี 3D Printing เข้ามา จะช่วยให้จำลองและออกแบบขั้นตอนการผ่าตัดได้ใกล้เคียงของจริงที่สุด ทำให้ผลลัพธ์การผ่าตัดมีความแม่นยำมากขึ้น และคนไข้ได้รับประโยชน์สูงสุด

ด้าน นพ.ปิยะ เกียรติเสวี แพทย์ประจำหน่วย Orthopaedic Oncology กล่าวว่า การใช้โมเดล 3D ทำให้เห็นโครงสร้างกายวิภาคของผู้ป่วย เห็นจุดที่ต้องหลบหลีกได้ชัดเจนขึ้น สามารถออกแบบ Cutting Guide เฉพาะเคส พิมพ์ออกมาทดลองใส่ก่อนผ่าตัดจริง ทำให้ผ่าตัดแม่นยำ ปลอดภัย เช่น กาาผ่าตัดมะเร็งกระดูก ที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 50 เคส ถือว่าได้ผลลัพธ์ดีมาก

นพ.พงศกร รุ่งจารีสโลภา ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า การนำเทคโนโลยี 3D Printing และ 3D Cutting Guide มาใช้ในการผ่าตัดแก้ไขกระดูกที่มีความผิดปกติ (Corrective osteotomy) ก็ช่วยให้จำลองผลลัพธ์และแก้ไขข้อผิดพลาดล่วงหน้า ชก่อนผ่าตัดจริง มีส่วนช่วยให้การรักษาคนไข้ง่ายขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการทำความเข้าใจลักษณะของโรค โครงสร้างกระดูก และสรีระ (Anatomy) ของผู้ป่วยอย่างละเอียด

นพ.วรท รัตนคูสกุล แพทย์เฉพาะทางออโธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า เทคโนโลยี 3D Printing เหมือนแบบอุปกรณ์นำทาง (Surgical Guide) จนถึงการจำลองก่อนผ่าตัดจริง ซึ่งทั้งหมดช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจให้ทีมผ่าตัดได้มากขึ้น โดยเฉพาะการรักษาผู้ป่วยแบบ ‘เฉพาะราย’

ทั้งนี้ “Lerdsin Medical 3D Printing and Innovation Center” ประกอบด้วย 3 หน่วยหลัก ได้แก่

  1. MED HUB (Medical Service) – ผลิต Cutting Guide, Implant และโมเดลอวัยวะเฉพาะราย
  2. ACADEMIC HUB (Learning & Research) – สนับสนุนการเรียนรู้ทางการแพทย์และงานวิจัย
  3. INNOVATION DEVELOPMENT – ร่วมสร้างอุปกรณ์ต้นแบบ เครื่องมือทางการแพทย์ใหม่ ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาทั่วประเทศ

นับเป็นความร่วมมือระหว่างกรมการแพทย์ , โรงพยาบาลเลิด และ บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านเทคโนโลยี 3D Printing ของประเทศไทย ที่ช่วยสร้างอนาคตด้านการแพทย์ เป็น ‘ประตูบานใหม่’ ให้เทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็มในการรักษาผู้ป่วย ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศได้