‘สยามบัวขาว’ รีแบรนด์ครั้งใหญ่ ดันผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยรุกตลาดสากล

04 พ.ย. 2568 | 20:30 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ย. 2568 | 10:39 น.

‘สยามบัวขาว’ ยกเครื่องรีแบรนด์ครั้งใหญ่ ปั้น 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ’ยา-สกินแคร์-Bath&Body-สมุนไพรอบแห้ง-เครื่องหอม‘ รุกตลาดคนรุ่นใหม่ในระดับสากล จาก Mass Market สู่ตลาด Niche-Premium พร้อมตั้งเป้าการเติบโต 100% ในทุกปี

KEY

POINTS

  • บริษัท บัวขาว เทรดดิ้ง จำกัด ประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 13 ปี เปลี่ยนชื่อจาก “บัวขาวเฮิร์บ” เป็น “สยามบัวขาว” เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากล
  • ตั้งเป้าขยายตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้า B2B ในรัสเซีย จีน และยุโรป พร้อมขยายตลาดในประเทศให้มีสัดส่วน 90%
  • เตรียมเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่และสินค้ากว่า 285 รายการ พร้อมทำการตลาดออนไลน์เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยคาดหวังรายได้ 100 ล้านบาทในปีแรกหลังการรีแบรนด์

ภญ. ภัทรธมน หาญอนันทสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัวขาว เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตสินค้าสมุนไพรไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดสมุนไพรไทยหรือผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 สมุนไพรไทยครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน ด้วยมูลค่ากว่า 6.3 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าในปี 2568 อัตราการเติบโตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ดังนั้น แบรนด์ “บัวขาวเฮิร์บ” ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นผู้ผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยในระดับ SMEs จึงได้รีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 13 ปี กลายเป็น “สยามบัวขาว (SIAM BUAKHAO)” ในปี 2568 ที่พร้อมยกระดับมาตรฐานสมุนไพรไทยสู่สากล ทั้งสร้างการรับรู้ ขยายตลาดในประเทศ และส่งออกไปยังผู้บริโภคทั่วโลก 

“แบรนด์บัวขาวสมุนไพรก่อตั้งในปี 2555 ด้วยเจตนารมณ์ในการส่งเสริมสมุนไพรไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมันนวด บาล์ม เจลว่านหางจระเข้ ฯลฯ 

กระทั่งปี 2558 ได้ขยายธุรกิจสู่การจัดตั้งโรงงานผลิตและรับจ้างผลิต (OEM/ODM) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ร้านขายยา ร้านขายของฝาก และตลาดโมเดิร์นเทรด จนมาถึงการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในปัจจุบัน”

‘สยามบัวขาว’ รีแบรนด์ครั้งใหญ่ ดันผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยรุกตลาดสากล

ภญ. ภัทรธมน กล่าวว่า ในปี 2569 สยามบัวขาวจะมุ่งเน้นแผนงานไปยังการสร้างแบรนด์ใหม่ให้แข็งแรง และตั้งเป้าขยายสัดส่วนการตลาดในประเทศให้ได้ 90% ต่างประเทศ 10% ภายใต้แพ็กเกจจิ้งใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงต้นปี ซึ่งจะปรับเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น รวมกว่า 285-300 SKU จาก 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 

1. กลุ่มยาแผนโบราณ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักสัดส่วนมากกว่า 50% จากทั้งหมด 2. กลุ่มสกินแคร์ ตามเทรนด์ความนิยมในปัจจุบัน 3. กลุ่ม Bath&Body 4. กลุ่มสมุนไพรอบแห้ง(เครื่องดื่ม) และ 5. เครื่องหอม 

ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างชาติ ที่ให้การยอมรับสินค้าประเภท Herb & Beauty ถือเป็น Soft Power ไม่แพ้อาหารไทย นวดไทย ตลอดจนวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะลูกค้า B2B ชาวรัสเซีย จีน อาหรับและประเทศโซนยุโรปที่ชื่นชอบสินค้าสมุนไพร

สำหรับกลยุทธ์สำคัญ จะทำการตลาดผ่าน E-commerce, อินฟลูเอนเซอร์, เซเลบริตี้ และอีเวนต์ รวมถึงการยิงโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าในช่วงอายุ 25-60 ปี หรือมากกว่านั้น โดยจะใช้งบลงทุนจากยอดขายทั้งหมดในด้าน R&D สัดส่วน 5% งบการตลาด 10% ดันผลิตภัณฑ์จาก Mass Market สู่ตลาด Niche-Premium พร้อมคาดหวังการเติบโต 100% ในทุกๆปี

‘สยามบัวขาว’ รีแบรนด์ครั้งใหญ่ ดันผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยรุกตลาดสากล

“เราจะใช้ชื่อแบรนด์ “สยามบัวขาว” รุกตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างเต็มรูปแบบในปี 2569 ด้วยโรงงานและเครื่องจักรการผลิตที่ทันสมัย ผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP และ ISO-9001 มีมาตรฐาน ทั้งรองรับการ OEM และ ODM โดยคาดหวังรายได้หลังจากรีแบรนด์ในปีแรก 100 ล้านบาท แม้การแข่งขันด้านมาร์เก็ตติ้งจะดุดเดือดมาก แต่ก็ยังเชื่อว่าตลาดสมุนไพรไทยมีโอกาสเติบโต และขยายการส่งออกไปประเทศอื่นๆ ได้อีกมากเช่นกัน”

อย่างไรก็ตาม สยามบัวขาวยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ให้เป็นที่รู้จักในตลาดสากลในอนาคต และมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจการผลิตสินค้าสมุนไพรไทย เพื่อให้บริการแก่บริษัทคู่ค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน