ในงานสัมมนา "Splash-Soft Power Forum 2025" ที่จะพูดถึงหัวข้อ "กินเป็นยา" การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพกลายเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะการเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางสุขภาพ และสามารถบำรุงร่างกายได้ทุกวัน จากการเลือกกินอาหารสด ผัก ผลไม้ และอาหารจากธรรมชาติที่ไม่มีสารเคมี รวมถึงการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน การทานอาหารที่ดีไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายสมดุล ยังสามารถส่งเสริมสุขภาพและเป็นเครื่องมือในการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้กับประเทศไทยอีกด้วย
นาง สุวรรณา หลั่งนำสั่งข์ ผู้บริหาร Lemon farm ร้านค้าปลีกที่ทำงานกับเกษตรกรรายย่อย กล่าวว่า ถ้าพูดถึงคำว่า "กินเป็นยา" จริงๆ แล้วคำนี้มีที่มาจากอริสโตเติล ที่บอกไว้ว่า การกินสิ่งที่ดีต่อร่างกายคือการรักษาตัวเอง นั่นหมายถึงการเลือกกินสิ่งที่ดีต่อร่างกาย ไม่ใช่แค่ยาในการรักษา
แต่เป็นการบำรุงร่างกายทุกวัน การกินอาหารที่ดีนั้นสำคัญมาก เพราะมันช่วยให้ร่างกายเรามีความสมดุล หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในต่างประเทศเองมีการพูดถึงการดูแลจุลินทรีย์ในร่างกายเรา โดยการเลือกกินอาหารที่ดี ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้สดหรืออาหารธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยรักษาและดูแลจุลินทรีย์ในร่างกายให้สมดุลและทำให้เราไม่ป่วย
ถ้ากินอาหารสดและอาหารที่ไม่ใช้สารเคมีหรือฮอร์โมนในกระบวนการผลิต เราจะช่วยให้จุลินทรีย์ในร่างกายเราแข็งแรง เพราะจุลินทรีย์ในร่างกายมีบทบาทสำคัญในการทำให้ร่างกายของเราทำงานได้ดี และช่วยในการย่อยอาหารและรักษาภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้าเราเลือกกินอาหารที่ไม่ดี เช่น อาหารแปรรูปหรือมีสารกันบูด จะทำลายจุลินทรีย์ในร่างกายเราเอง นั่นคือสิ่งที่เราต้องระวัง
ออแกนิคหรือเกษตรอินทรีย์คือการปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีหรือฮอร์โมน ซึ่งเป็นการเกษตรที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด โดยที่เราจะไม่ใช้สารเคมีในการฆ่าแมลงหรือป้องกันโรคต่างๆ การเลือกกินออแกนิคช่วยดูแลจุลินทรีย์ในร่างกายเรา เพราะมันไม่มีสารพิษหรือสารแปลกปลอมที่อาจทำลายร่างกายได้
เชฟหนุ่ม วีระวัตน์ ตตริยเสนวรรธน์ เชฟและเจ้าของร้านซาหมวซัย&นส์ กล่าวว่า จากประสบการณ์ของตัวผมเอง การทำอาหารเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้อร่อยก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็จะมาตั้งคำถามว่า อาหารอร่อยนั้นมาจากอะไร ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับคุณภาพของวัตถุดิบที่เราใช้ประกอบอาหาร อะไรที่มีคุณภาพดีเป็นสิ่งสำคัญมาก และเราเองต้องเลือกวัตถุดิบที่ดีอย่างรู้ที่มาที่ไป เช่น น้ำปลา, น้ำตาล, หรือวัตถุดิบท้องถิ่นต่างๆ ผมเชื่อว่าคุณภาพของอาหารเริ่มจากรายละเอียดเล็กๆ นี้
ในฐานะเชฟที่ทำอาหารไทย เรามีภูมิปัญญาของคนโบราณที่สืบทอดมา ซึ่งก็ต้องรักษาไว้ตามสูตรและรสชาติที่ต้องการ แต่ก็ยังต้องคำนึงถึงการเลือกวัตถุดิบที่ดีเพื่อมาประกอบให้เกิดเป็นจานที่มีคุณภาพ
แล้วเมื่อเราเลือกวัตถุดิบทุกอย่างได้ถูกต้องและพร้อมแล้ว สิ่งที่เราจะมองต่อไปคือการเลือกอาหารที่เหมาะสมกับฤดูกาล รวมถึงใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เพราะส่วนตัวเชื่อว่าร่างกายของเราก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เมื่อเราเลือกอาหารที่เหมาะสมตามฤดูกาล ร่างกายจะสามารถปรับสมดุลจากสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้
ผมมองว่าเมื่อได้อาหารที่ดีและมีคุณภาพ ก็ทำให้มันเป็น "กินเป็นยา" ได้จริงๆ เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จากการเลือกวัตถุดิบที่ดีและมีคุณภาพ ทั้งนี้การทำอาหารไม่ได้แค่ให้ความอร่อยเท่านั้น แต่มันยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเราในระยะยาวด้วย
หมอต้า วิพุธ สันติวาณิช ผู้ก่อตั้ง ณ สมดุล ศูนย์สร้างเสริมสุขภาวะ และพัฒนาสมดุลชีวิตองค์รวม กล่าวว่า การปรับการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับภาวะทางร่างกาย โดยเริ่มต้นด้วยการพูดถึงการทานอาหารเพื่อสุขภาพว่าไม่ใช่การทานอาหารตามดวงหรือวันเกิด แต่เป็นการเลือกอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายและฤดูกาลตามที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ได้ เช่น การเลือกอาหารตามฤดูกาลและอาหารที่ปลอดสารพิษ ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้ป่วยก่อนถึงจะต้องใช้ยา แต่สามารถปรับอาหารให้เป็นยาทุกวันได้
การเลือกอาหารสุขภาพต้องมีความสมดุล ไม่ใช่แค่เลือกอาหารที่อร่อยหรือมีรสจัดเพียงอย่างเดียว เนื่องจากการกินอาหารที่ไม่ดีอาจนำไปสู่การป่วยได้ หมอต้าแนะนำว่าอาหารที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารที่ยากหรือซับซ้อน การเลือกอาหารตามธรรมชาติที่ปลูกในชุมชนและมีส่วนช่วยรักษาสมดุลให้กับร่างกายและสิ่งแวดล้อมคือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ
วิธีการออกแบบอาหารให้มีประโยชน์และสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละบุคคล โดยอาจจะเป็นการใช้เครื่องเทศหรือสมุนไพรในอาหาร เช่น การใช้รสชาติที่มีผลต่อธาตุในร่างกาย เช่น รสเปรี้ยวหวานหรือเผ็ดร้อน ซึ่งสามารถช่วยในการบำรุงหรือปรับสมดุลของร่างกายได้
การทานอาหารสามารถปรับให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายในปัจจุบันได้ โดยธาตุของแต่ละคนสามารถเปลี่ยนแปลงตามสภาพการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีงานเยอะหรือรู้สึกอ่อนเพลีย ก็สามารถเลือกทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อนเพื่อเพิ่มพลัง หรืออาหารที่ช่วยบำรุงร่างกาย
การรู้จักธาตุของตนเองสามารถช่วยให้เรารู้จักการเลือกอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายในช่วงต่างๆ ได้ เช่น ธาตุที่เป็นธรรมชาติในตัวเรา หรือธาตุที่เกิดจากการทำงานและการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งต้องฝึกทักษะในการรู้จักตัวเองและนำความรู้นี้ไปใช้ในการเลือกอาหารได้
นางสาว ศิริลักษณ์ มหาจันทนาภรณ์ ผู้ก่อตั้งร้านปลูกปั่น ร้านน้ำผักผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า จากที่คุณหมอพูดถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเพื่อสุขภาพ เห็นด้วยว่าในช่วงแรกของการปรับตัวเพื่อกินอาหารเพื่อสุขภาพนั้นอาจจะยากหน่อย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงจากการกินอาหารที่ชอบในอดีต ซึ่งเป็นอาหารที่อาจจะดูดี หรือแพง หรือถูกตกแต่งอย่างสวยงาม แต่กลับทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา
ในมุมมองของ การกินอาหารสุขภาพในตอนแรกอาจจะไม่ถูกใจหรือไม่อร่อยเท่าที่เคยชอบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ มุมมองต่อความอร่อยจะเปลี่ยนไป สิ่งที่สำคัญคือการพัฒนาความสามารถในการรับรู้ว่าอาหารแบบไหนที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสมกับตัวเราเอง
เมื่อเริ่มปรับตัวและรู้จักตัวเองมากขึ้น เช่น เมื่อรู้สึกว่าเราร้อนใน เราจะไม่อยากกินอาหารที่ร้อนเกินไป แม้ว่าไม่ต้องไปพบหมอก่อน แต่เราจะสามารถรู้ได้ด้วยตัวเองผ่านการปรับพฤติกรรมการกิน
นอกจากนี้ การกินอาหารที่เคยชอบในอดีต เช่น ขนมหวานหรือของทอด เมื่อกินอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว สิ่งที่เคยชอบกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่อยากกินมากนัก หรือกินได้เพียงเล็กน้อย และสามารถวางมันได้โดยไม่รู้สึกเครียด การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นกระบวนการที่ต้องผ่านช่วงแรกไปให้ได้ เมื่อเราผ่านช่วงเวลานั้นไปได้ เราจะมีความสุขและสุขภาพที่ยั่งยืนขึ้น พร้อมกับการกินอย่างมีสติและรู้ตัว
นางสุวรรณา กล่าวว่า “เราต้องถามว่า ประเทศไทยมีอะไรที่จะไปแข่งขันกับประเทศอื่นได้? สิ่งที่เรามีคือความหลากหลายของอาหารและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถนำไปสู่ความมหัศจรรย์ได้ เรามีอาหารที่มีรสชาติและความหลากหลายที่ไม่สามารถเลียนแบบได้ การที่เราพูดถึงอาหารไทยอย่างชัดเจนและภูมิใจในอาหารของเรา จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก และนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจจากการส่งออกอาหารไทย"
ส่วน เชฟหนุ่ม วีระวัตน์ กล่าวว่า “ผมเชื่อในภูมิปัญญาท้องถิ่นของประเทศไทยในการทำอาหารไทย แต่คำถามที่ต้องคิดคือ ความยั่งยืนของการนำเสนอวัฒนธรรมเหล่านี้ในระยะยาว? เราจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจในคุณค่าเหล่านี้ทั้งในคนไทยและชาวต่างชาติ การใช้สมุนไพรท้องถิ่นในการปรุงอาหารที่มีคุณค่าทางสุขภาพจะช่วยให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากทั้งเศรษฐกิจและสุขภาพของผู้คนในโลก"
ทางด้าน หมอต้า วิพุธ กล่าวว่า “การพัฒนา 'ซอฟต์พาวเวอร์' ของประเทศไทยผ่านอาหารไทยที่มีคุณค่าทางสุขภาพไม่ใช่แค่การกินเพื่อความอร่อย แต่ยังเป็นการใช้สมุนไพรและวัตถุดิบพื้นบ้านเพื่อรักษาสุขภาพ อาหารไทย เช่น ต้มยำกุ้ง หรือผัดไทย ไม่ได้เป็นเพียงแค่รสชาติของเครื่องปรุงเท่านั้น แต่ยังมีความหมายในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและการรักษา ทำให้การส่งออกอาหารไทยสามารถช่วยสร้างความเข้าใจถึงการใช้ 'อาหารเป็นยา' และส่งเสริมภูมิปัญญาของไทยไปสู่ระดับสากล"
ขณะที่ นางสุวรรณา เสริมว่า“แนวคิดบลูโซน ซึ่งหมายถึงการทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอาหารสุขภาพ โดยการเชื่อมโยงอาหารไทยกับการท่องเที่ยวสุขภาพเป็นสิ่งที่เราควรผลักดัน ประเทศไทยมีโอกาสในการเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางด้านอาหารสุขภาพได้อย่างชัดเจน การใช้สมุนไพรธรรมชาติในการบำรุงร่างกายสามารถทำให้ผู้คนได้รับประโยชน์จากอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลร่างกายจากภายใน"
หมอต้า วิพุธ กล่าวทิ้งท้ายว่า “การกินอาหารดีและมีประโยชน์ไม่เพียงแค่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการหลับใหล การขับถ่าย หรือการรักษารูปร่าง อาหารที่ดีต่อสุขภาพมีส่วนช่วยในการลดการอักเสบและเพิ่มพลังชีวิต ซึ่งนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับการรักษาความสมดุลของร่างกายและจิตใจ"