KEY
POINTS
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. 2567) ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังกว่า 1.12 ล้านคน และในจำนวนนี้เกือบ 1 แสนราย ต้องเข้ารับการฟอกเลือดหรือล้างไตทางช่องท้องเป็นประจำ ผู้ป่วยแต่ละรายต้องใช้เงินเฉลี่ยประมาณ 2.3 แสนบาทต่อปี สำหรับการฟอกเลือดสัปดาห์ละ 3 ครั้ง (คำนวณจากอัตราค่าบริการ 1,500–1,700 บาทต่อครั้ง)
ล่าสุดในปีงบประมาณ 2568 ชี้ให้เห็นว่า ค่าใช้จ่ายในการบำบัดทดแทนไตภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสูงถึง 17,589 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้กว่า 4,000 ล้านบาท ดังนั้น โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease: CKD) จึงจัดเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศเนื่องจากเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีอุบัติการณ์สูง และเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด
สาเหตุหลักของโรคไต มักเกิดจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ ท้ายที่สุดแล้วโรคเหล่านี้จะนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการบำบัดทดแทนไตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต สร้างภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลต่อระบบสุขภาพของประเทศ
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วน ในการขับเคลื่อนมาตรการด้านสุขภาพเชิงป้องกัน สำหรับการตรวจคัดกรองโรคไตตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ด้วยชุดตรวจโปรตีนในปัสสาวะ (Microalbuminuria striptest) ตรวจหาโปรตีนอัลบูมินที่รั่วในปัสสาวะ
เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงของการเข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และช่วยลดภาระต่อระบบสาธารณสุขโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด จึงส่งมอบชุดตรวจดังกล่าวให้แก่ กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และเขตสุขภาพต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยจัดพิธีส่งมอบที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี
เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ “คนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา
สำหรับประชาชนกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง นิ่วในไต เกาต์ และผู้ที่มีประวัติใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เป็นประจำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของไตได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
ช่วยชะลอความเสื่อมของไต และลดโอกาสการเข้าสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้ายได้ นอกจากนี้ยังมุ่งสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้างถึงความสำคัญของโรคไตเรื้อรัง ปัจจัยเสี่ยง และแนวทางการป้องกันที่ถูกต้อง เพื่อให้คนไทยทุกคนตระหนักและดูแลสุขภาพไตของตนเองได้อย่างยั่งยืน
ดร.นพ. โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการป้องกันโรคไต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และนับได้ว่าเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ประชาชนได้รู้จักและดูแลสุขภาพไตของตนเองอย่างทันท่วงที เพราะการเปลี่ยนแนวทางจากการรักษาเมื่อเกิดโรค มาสู่การป้องกันและคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
ช่วยชะลอการเข้าสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชน ถือเป็นพลังเสริมสำคัญในการขับเคลื่อนพันธกิจระดับชาติ ช่วยให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกคน สามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองที่มีคุณภาพ ลดภาระของระบบสุขภาพ และสร้างความมั่นคงทางสุขภาพให้กับประเทศในระยะยาว
ด้าน นายริคาร์เต้ เซลวานเดส ริเวร่า ผู้จัดการทั่วไป และหัวหน้าฝ่ายเภสัชภัณฑ์สำหรับมนุษย์ บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ได้ตระหนักถึงความรุนแรงและความเร่งด่วนของปัญหาโรคไตในประเทศไทย
การสนับสนุนในครั้งนี้ จึงสะท้อนถึงพันธกิจที่มุ่งส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันอย่างแท้จริง เพราะการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ถือเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดความสูญเสียต่อชีวิต