รมช.วรโชติ หนุน เร่ง Quick Big Win 3 ด้าน ยกระดับระบบสุขภาพไทย

03 พ.ย. 2568 | 10:15 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2568 | 10:17 น.

รมช.สธ. ประกาศหนุนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เร่งขับเคลื่อนภารกิจ Quick Big Win 3 ด้าน ทั้งยกมาตรฐานระบบสถานพยาบาล ส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นคุณภาพมาตรฐานระบบบริการสุขภาพไทย

KEY

POINTS

  • ยกระดับมาตรฐานสถานพยาบาลทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐานแห่งชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
  • ส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ ผลักดันนโยบาย Medical Hub เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ สร้างรายได้ให้ประเทศ
  • สร้างความเข้มแข็งให้ระบบสุขภาพปฐมภูมิ โดยพัฒนาสถานีสุขภาพและเพิ่มศักยภาพ อสม. เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น

3 พฤศจิกายน 2568 นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการดำเนินภารกิจของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมมอบนโยบายให้กับผู้บริหารและบุคลากร โดยมี นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ

นายวรโชติ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย Quick Big Win ที่มุ่งเน้นในการยกระดับระบบสุขภาพไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เพื่อความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ขับเคลื่อนงานสำคัญที่เกี่ยวข้อง 3 ด้าน คือ

1. มาตรฐานระบบสถานพยาบาล ยกระดับมาตรฐานระบบบริการสุขภาพเป็นมาตรฐานสถานพยาบาลแห่งชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถานพยาบาล ทั้งการพัฒนาพระราชบัญญัติมาตรฐานด้านระบบวิศวกรรมการแพทย์ ส่งเสริมสถานพยาบาลภาครัฐให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน

เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานก่อสร้างและดูแลบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม มีการบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบสถานพยาบาลที่ให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพ รวมถึงพัฒนาระบบเฝ้าระวังการโฆษณาเกินจริงของสถานพยาบาลและสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยี AI 

2. การส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ ขับเคลื่อนนโยบาย Medical Hub ผ่าน 6 คณะอนุกรรมการฯ เพื่อพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ประกอบด้วย ศูนย์กลางบริการรักษาพยาบาล (Medical Service Hub) ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub) ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub) และศูนย์กลางการจัดประชุมและนิทรรศการด้านการแพทย์และสุขภาพ (Health Convention and Exhibition Hub)

รวมถึงส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Hospital Quality ในธุรกิจบริการสุขภาพด้านเวชศาสตร์ความงาม เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ การผ่าตัดแปลงเพศ และ Wellness สร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวต่างชาติด้านความปลอดภัยในระบบบริการสุขภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการบริการสุขภาพของสถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

3. สร้างความเข้มแข็งระบบสุขภาพปฐมภูมิ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยพัฒนาเครือข่ายบริการสุขภาพปฐมภูมิ Health Station หรือ "สถานีสุขภาพ" พัฒนาศักยภาพ อสม. โดยใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน คัดกรอง ประเมินสุขภาพประชาชน เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ, สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระดับชุมชน

ยกระดับศูนย์สาธารณสุขมูลฐาน (ศสมช.) เป็น "ศูนย์ NCDs ประจำหมู่บ้าน" ให้ครบ 76 จังหวัด เพิ่มทักษะอสม. ในการปฏิบัติงาน 4 ด้าน ได้แก่ การดูแลผู้ป่วยเบาหวานระยะสงบ, ดูแลผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง, เป็นผู้นำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และ นวดเพื่อสุขภาพ รวมถึงพัฒนา อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ให้สามารถดูแลสุขภาพแรงงานต่างด้าวได้ดีขึ้น โดยผลักดันให้เข้าถึงระบบบริการสุขภาพ ผ่านบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศ

"ตนพร้อมที่จะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ผลักดันโครงการที่ดี โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจสุขภาพ เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหนึ่งกระทรวงเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงจะสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถ เพิ่มศักยภาพและสร้างขวัญกำลังใจให้กับ อสม. อสส. และ อสต. ซึ่งเป็นกำลังหลักด้านสุขภาพ และสร้างความเข้มแข็งของระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อด้านความเชื่อมั่นของระบบบริการสุขภาพในการสร้างเศรษฐกิจประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง" นายวรโชติ กล่าว