กลุ่ม รพ.รามคำแหง เปิดกลยุทธ์ รีแบรนด์ขยายฐานลูกค้าดันยอดโต 40%

24 ต.ค. 2568 | 20:30 น.

คาดการณ์ RAM Hospital Group ปี 2568 เติบโต 40% รวมรายได้กว่า 14,000 ล้านบาท พร้อมมุ่งสร้างเครือข่ายเป็นอันดับ 2 ของไทย ปรับภาพลักษณ์รองรับความต้องการคนรุ่นใหม่ครบวงจร

KEY

POINTS

  • กลุ่ม รพ.รามคำแหง ประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ภายใต้ยุทธศาสตร์ “RAM 2.0” ตั้งเป้าการเติบโต 40% หรือมีรายได้รวมราว 14,000 ล้านบาทภายในปี 2568
  • กลยุทธ์หลักคือการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มผู้สูงอายุไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น รวมถึงรองรับผู้ป่วยต่างชาติ
  • ปรับเปลี่ยนการให้บริการจากเน้นการรักษาเมื่อเจ็บป่วย (Sick Care) ไปสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Health Care) โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมการแพทย์มาใช้

ดร.ฤกขจี กาญจนพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหงและบริษัทในเครือ กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลและการแข่งขันถือว่าดุเดือดมาก แต่กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง หรือ RAM Hospital Group 46 แห่งทั่วประเทศ รวมกว่า 7,800 เตียง ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ได้กระจายความเสี่ยงด้วยการดูแลกลุ่มคนไข้อย่างครอบคลุม ทั้งกลุ่มที่จ่ายเงินเอง, ประกัน(Health insurance), ประกันสังคม และครอบคลุมสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 30 บาท ฯลฯ 

ขณะที่รายได้อยู่ในอันดับ 3 โดยโฟกัสดูแลผู้ป่วยในประเทศเป็นหลัก ส่วนกลยุทธ์จะเน้นปรับโครงสร้างการถือหุ้น ขยายธุรกิจจากเดิมโดยมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทย่อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการ ภายใต้ยุทธศาสตร์ “RAM 2.0, The New Era of Ram Hospital Group” คาดว่าในปี 2568 จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 40% รวมรายได้ราว 14,000 ล้านบาท จากการเติบโตตามปกติของทุกโรงพยาบาล (Organic Growth) และการรับรู้รายได้ของกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรีที่เพิ่มเข้ามาล่าสุด

สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นใน 46 โรงพยาบาล แบ่งเป็น เครือโรงพยาบาลรามคำแหง 25 แห่ง 100%, เครือโรงพยาบาล 6 แห่ง 50%, เครือโรงพยาบาลธนบุรี THG จำนวน 8 แห่ง 49.99%, เครือโรงพยาบาลสินแพทย์ 7 แห่ง 28.40% ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่ง “ตอบทุกความต้องการ เชี่ยวชาญทุกการดูแล” โดยผสมผสานมุมมองทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

กลุ่ม รพ.รามคำแหง เปิดกลยุทธ์ รีแบรนด์ขยายฐานลูกค้าดันยอดโต 40%

นพ. พิชญ สมบูรณสิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท กลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า RAM Hospital Group พร้อมก้าวสู่การเป็น Medical Hub ที่สำคัญของไทย รองรับผู้ป่วยทั้งคนไทยและนานาชาติ ที่ให้บริการรักษาพยาบาลมาตรฐานสูง

แบ่งเป็นโรงพยาบาลหลักในกรุงเทพฯ 5 แห่ง โรงพยาบาลในภูมิภาค 13 แห่ง โรงพยาบาลเครือข่ายกลุ่มพันธมิตร 28 แห่ง ศูนย์ให้บริการเฉพาะทางมากกว่า 30 สาขา รวมถึง 7 ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellence - COE) และพร้อมขยายฐานลูกค้าด้วยการประกาศตัวรีแบรนด์ ที่ไม่เพียงรองรับคนไข้ผู้สูงอายุเท่านั้น แต่จะรุกตลาดดูแลสุขภาพของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และอาจมากกว่า 30% ในปัจจุบัน

กลุ่ม รพ.รามคำแหง เปิดกลยุทธ์ รีแบรนด์ขยายฐานลูกค้าดันยอดโต 40%

โดยคนรุ่นใหม่มีความต้องการด้านสุขภาพที่สะดวกสบายมากขึ้น ต้องการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาร่วมกับแพทย์ได้ ทั้งทางเลือกการรักษา วิธีการรักษา ซึ่งแพทย์จะต้องแจ้งรายละเอียดทั้งข้อดีและข้อเสียให้ทราบอย่างชัดเจน RAM Hospital Group จึงพยายามพัฒนาและปรับตัว เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางความต้องการดังกล่าวทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นพ. พิชญ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 37 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป้าหมายหลักยังคงไว้ซึ่งความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ และการนำเทคโนโลยีการรักษาที่ก้าวหน้ามาให้บริการ รวมถึงร่วมมือกับโรงพยาบาลเครือข่ายให้เติบโตขึ้น เพื่อดูแลคนไข้ได้ครอบคลุมและครบวงจร ตั้งแต่ปรึกษาเพื่อดูแลสุขภาพ ค้นหาโรคตั้งแต่เนิ่นก่อนเจ็บป่วยหนัก ลดภาระค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยปณิธานที่พร้อมเป็นส่วนหนึ่ง ทำให้เป้าหมายชีวิตของทุกคนเป็นไปได้ตามที่ต้องการ 

กลุ่ม รพ.รามคำแหง เปิดกลยุทธ์ รีแบรนด์ขยายฐานลูกค้าดันยอดโต 40%

“เรามีเครือข่ายโรงพยาบาล Flagship ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งล้วนได้มาตรฐานสากล (Joint Commission International: JCI), มาตรฐาน AACI และมาตรฐาน HA มีจุดแข็งในระบบการส่งต่อผู้ป่วยภายในเครือข่ายครบวงจรและตรงจุด อาทิ ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีรามคำแหง (ฝั่งตะวันออก) และ เครือโรงพยาบาลธนบุรี (ฝั่งตะวันตก) ในภาคเหนือก็มีกลุ่มเชียงใหม่รามและจังหวัดอื่นๆ ส่วนภาคอีสานมีขอนแก่นราม, เมืองเลยราม ภาคใต้มีเครือโรงพยาบาลธนบุรีหลายจังหวัด เช่น ตรัง ขณะที่ภาคตะวันออกมีเครือโรงพยาบาลวิภาราม รองรับเขต EEC, นิคมอุตสาหกรรม เช่น อมตะนคร”

กลุ่ม รพ.รามคำแหง เปิดกลยุทธ์ รีแบรนด์ขยายฐานลูกค้าดันยอดโต 40%

ด้าน นายทีโบ สปิทาคิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด โรงพยาบาลรามคำแหง กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนผู้ป่วยของกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงกว่า 95% เป็นคนไทย ภายใต้การ Rebranding เพื่อขยายฐานผู้รับบริการกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมรับผู้ป่วยต่างชาติที่มองหาการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยเฉพาะการดูแลเชิงป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ (Preventive & Wellness) ก่อนป่วยมากขึ้น รวมถึงรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมสูงอายุ 

 

“เรามุ่งเน้นปรับเพิ่มการให้บริการที่เปลี่ยนผ่านจาก Sick Care สู่ Health Care ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมการแพทย์ (Digital Health & Innovation) อาทิ AI, Telemedicine, Big Data และอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพ มาเพิ่มประสิทธิภาพการวินิจฉัย การรักษา และการให้บริการที่ไร้รอยต่อ”

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง พร้อมสร้างอัตลักษณ์ใหม่ที่แข็งแกร่ง ที่สะท้อนตัวตนของเราทั้งในด้าน Caring, Trusted, Expertise และ Collaborative เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความคาดหวังสูงขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพการรักษาโรคซับซ้อน เทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย และประสบการณ์ที่ดีจากการเข้ารับบริการ ดูแลสุขภาพในทุกมิติของชีวิต ไม่ใช่โรงพยาบาลที่เน้นเพียงการรักษาโรค