ตระหนักรู้ ’โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด‘ ภัยเงียบคร่าชีวิตที่ควบคุมได้

12 ต.ค. 2568 | 07:29 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ต.ค. 2568 | 08:05 น.

แอสตร้าเซนเนก้า ผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญนานาชาติในงานประชุม Asia COPD & SEA Summit 2025 เผยนวัตกรรมจุดประกายความหวังเรื่อง “โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด” ภัยเงียบคร่าชีวิตที่ควบคุมได้

KEY

POINTS

  • โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคหืดเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยจำนวนมาก โดย COPD ทำให้เสียชีวิตปีละ 20,000 คน และโรคหืดอีกกว่า 3,000 คนต่อปี
  • โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการควบคุมอาการกำเริบจึงเป็นหัวใจสำคัญของการรักษา
  • มีการพัฒนานวัตกรรมการรักษาใหม่ที่ช่วยให้ควบคุมโรคได้ดีขึ้น เช่น ‘Triple Therapy’ ยาสูดพ่นสำหรับ COPD และ ‘ยาชีววัตถุ (Biologics)’ สำหรับผู้ป่วยโรคหืดรุนแรง

ในงานประชุม Asia COPD & SEA Summit 2025 เผย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของโลก มีผู้ป่วยราว 392 ล้านคน และคร่าชีวิตก่า 3.5 ล้านคนทั่วโลก จากสถิติปี 2564 ประเทศไทยก็มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังถึงปีละ 2 หมื่นคน หรือเฉลี่ยวันละ 50 คน 

ในขณะที่โรคหืด (Asthma) พบว่ามีผู้ป่วยราว 262 ล้านคนทั่วโลก และเสียชีวิตกว่า 4.5 แสนราย โดยในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหืดเฉลี่ย 8–9 รายต่อวัน หรือกว่า 3,000 รายต่อปี เห็นได้ชัดว่าทั้งสองโรคเป็น “ภัยเงียบเรื้อรัง” ที่กำลังคุกคามผู้คนนับล้าน และคาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยอีกเกินครึ่งที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย

ศ.นพ.กิตติพงศ์ มณีโชติสุวรรณ ศาสตราจารย์ประจำสาขาอายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤติ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า แม้โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสามของโลก แต่ยังไม่ได้รับความตระหนักรู้เท่าที่ควร ทั้งที่ผู้ป่วยต้องทนทุกข์จากภาวะหายใจติดขัดรุนแรงเสมือนถูกกดใต้น้ำ ในไทยพบว่าราว 7% ของประชากรกำลังเผชิญโรคนี้ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปัญหาฝุ่น PM2.5 และการสูบบุหรี่ 

ตระหนักรู้ ’โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด‘ ภัยเงียบคร่าชีวิตที่ควบคุมได้

สถานการณ์ที่น่ากังวลดังกล่าวสะท้อนความสำคัญของเวที Asia COPD & SEA Summit 2025 ที่แอสตร้าเซนเนก้า ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพทางเดินหายใจระดับโลก ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก 7 ประเทศ ได้เผยความก้าวหน้าตามแนวทางการรักษา GOLD Guidelines 2025 ชี้ชัดถึง ‘นวัตกรรมแห่งความหวัง’ อย่าง Triple Therapy ยาสูดที่ผสานตัวยาสามชนิดในอุปกรณ์เดียว และยาชีววัตถุ (Biologics) จุดประกายความหวังในการเปลี่ยนอนาคตของผู้ป่วยในไทยและในระดับภูมิภาคให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

ศ. นพ. ไมเคิล จี. ครูกส์ ศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินหายใจ มหาวิทยาลัยฮัลล์ ยอร์ก เมดิคัล สคูล (Hull York Medical School) สหราชอาณาจักร และ รศ. นพ. เล คัค บ๋าว รองหัวหน้าแผนกโรคปอดโรงพยาบาลเกียดินห์ ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า อันตรายของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังไม่ได้จำกัดแค่ที่ ‘ปอด’ หากยังคุกคามถึง ‘หัวใจ’ ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการกำเริบมากกว่า 2 ครั้งต่อปี จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคแทรกซ้อน ทั้งความดันโลหิตสูงกว่า 46% โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ 40% หรือภาวะหัวใจล้มเหลวกว่า 20% 

ตระหนักรู้ ’โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด‘ ภัยเงียบคร่าชีวิตที่ควบคุมได้

ดังนั้น “การควบคุมการกำเริบ” จึงเป็นหัวใจสำคัญของการรักษา โดยงานวิจัยได้ยืนยันถึงประสิทธิภาพของTriple Therapy ว่าสามารถลดการกำเริบและความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจได้อย่างตรงจุด ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของนวัตกรรมที่เข้าใจทั้งโรคและผู้ป่วยอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างในประเทศเวียดนาม ได้บูรณาการ Triple Therapy เข้าสู่ระบบสาธารณสุขมาเกือบ 1 ปี สะท้อนผลลัพธ์ที่ชัดเจนว่าผู้ป่วยควบคุมอาการกำเริบได้ดีขึ้น ความสำเร็จนี้ไม่ใช่เพียง ‘ทางเลือก’ แต่คือ ‘ทางรอด’ 

รศ. นพ. ศิวศักดิ์ จุทอง อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจและภาวะวิกฤตทางเดินหายใจ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ส่วนโรคหืดเป็นภาวะหลอดลมตีบแคบจากการอักเสบเรื้อรัง หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและควบคุมอาการของโรคได้ไม่ดี อาจก่อให้เกิดเป็น ‘โรคหืดรุนแรง’ (Severe Asthma) และจากการศึกษาพบว่า ประมาณ 7 คน ต่อประชากร 100 คน มีอาการโรคหืดรุนแรง และโรคนี้ได้คร่าชีวิตผู้ป่วยไทยราว 2,000 รายต่อปี 

ตระหนักรู้ ’โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด‘ ภัยเงียบคร่าชีวิตที่ควบคุมได้

ในปัจจุบันการรักษาโรคหืดรุนแรงได้พัฒนาอย่างมาก หนึ่งในก้าวสำคัญคือ ยาชีววัตถุ หรือ Biologics ที่ออกฤทธิ์ตรงต่อกลไกของโรค ช่วยลดอาการเหนื่อยหอบได้อย่างแม่นยำ จากประสบการณ์จริงของผู้ป่วยรายหนึ่งสะท้อนพลังของนวัตกรรมการรักษาอย่างชัดเจน เล่าว่าเคยต้องทนกับอาการหอบหนักแม้เพียงเดินไม่กี่ก้าว แต่หลังได้รับการรักษาก็กลับมาหายใจโล่งขึ้น

ดังนั้น คงจะเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมาก หากนวัตกรรมเหล่านี้ ทั้ง Triple Therapy และยาชีววัตถุ(Biologics) จะสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึงภายใต้สิทธิการรักษาต่างๆ เพราะไม่ได้เพียงแต่ช่วยรักษาอาการ แต่ยังคือการคืนลมหายใจ ความฝัน และคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยอีกนับไม่ถ้วน

ตระหนักรู้ ’โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด‘ ภัยเงียบคร่าชีวิตที่ควบคุมได้

ทั้งนี้ การประชุม Asia COPD & SEA Summit 2025 สะท้อนพันธกิจอันแน่วแน่ของ ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ ในฐานะผู้นำการขับเคลื่อนการดูแลโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืดรุนแรงในภูมิภาคเอเชีย ภัยเงียบที่กระทบผู้คนนับล้านทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ผ่านการผสานองค์ความรู้ แนวทางการรักษา และนวัตกรรมระดับนานาชาติ 

เพื่อยกระดับศักยภาพการวินิจฉัยและการรักษา ที่ไม่เพียงเสริมความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุข แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนมุมมอง จากโรคที่ทำให้ตายได้ สู่โรคที่ไม่จำเป็นต้องตาย หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที พร้อมคืนคุณภาพชีวิตและความหวังให้ผู้ป่วย และขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคตที่ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีกว่าเดิม