KEY
POINTS
วันนี้ (24 กันยายน) นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่เกิดเหตุ ถนนทรุดตัวเป็นหลุมลึกขนาด 20 เมตร หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล บริเวณพื้นผิวจราจรถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์ฉุกเฉินเตรียมไว้แล้ว เพื่อรองรับหากมีเหตุเคลื่อนย้ายผู้ป่วย หรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนผู้ป่วยในได้เตรียมโรงพยาบาลจากกรมการแพทย์ไว้ประมาณ 200 กว่าเตียงแล้ว เพื่อให้รองรับได้ทันทีแต่ทางสาธารณสุขยืนยันว่ามีความพร้อม
ขณะนี้ โรงพยาบาลวชิรพยาบาลไม่เปิดรับผู้ป่วยนอกแล้ว ในส่วนผู้ป่วยในมีการรักษาตามปกติ ส่วนการย้ายผู้ป่วยในส่วนใดบ้าง จำนวนเท่าใดให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ประเมินอีกครั้งหนึ่ง
จากการประเมินเฉพาะโรงพยาบาลวชิรพยาบาลเบื้องต้น หน้างานยังไม่มีความเสียหายแต่จะต้องมีการตรวจสอบโครงสร้างต่อไป ส่วนของอาคารที่อยู่ใกล้พื้นผิวจราจรที่ถล่มมากที่สุดขณะนี้งดใช้แล้ว เนื่องจากเป็นอาคารผู้ป่วยนอกและอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยปกติแล้วอาคารดังกล่าวจะรองรับผู้ป่วยนอกประมาณ 2,000 คน
ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุที่เกิดเหตุ กล่าวว่า สาเหตุของถนนทรุดตัวเกิดจากดินไหลเข้าไปในอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน บริเวณรอยต่อระหว่างอุโมงค์และสถานี เมื่อเพดานสถานีเสียหาย ดินด้านบนจึงไหลลงสู่อุโมงค์และช่องว่างใต้ดินที่กำลังก่อสร้าง
ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้างบริเวณใกล้เคียงทรุดตัวตามไปด้วย ฝั่งมุ่งหน้าสะพานซังฮี้ ดินยังแข็งแรง แต่ฝั่งที่เกิดการทรุดตัว ดินอ่อน และไม่มีโครงสร้างค้ำยันรองรับ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน 7 ข้อ ประกอบด้วย
ข้อสำคัญอีกข้อคือเรื่องฝนตก ถ้ามีฝนตกจะทำให้มีน้ำเพิ่มในระบบ อาจจะชะดินลงไปในช่องที่เปิด ซึ่งได้สั่งให้ตั้งทีมงานขึ้นมาพิจารณาตอนฝนตกว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อป้องกันการไหลของดินเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีเพียงความเสียหายต่อยานพาหนะจำนวน 3 คัน
สำหรับพื้นที่เสี่ยงอันตรายได้ถูกประกาศเป็นเขตห้ามเข้าแล้ว สำหรับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้ปรับรูปแบบการให้บริการ โดยงดบริการผู้ป่วยนอกชั่วคราวเป็นเวลา 2 วัน เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่วนการรักษาผู้ป่วยในยังคงดำเนินการตามปกติ และมีโรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดกรุงเทพมหานครรองรับผู้ป่วยนอกในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะเดียวกัน กทม. และ รฟม. ได้ตั้งศูนย์บัญชาการในพื้นที่เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ และจะมีการประชุมในเวลา 12.00 น. และ 18.00 น. เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยขอย้ำว่า ความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด