นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ถนนทรุดตัวบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถนนสามเสน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการเร่งฟื้นสภาพพื้นที่ให้โดยเร็วที่สุดพร้อมทั้งน้อมรับในการดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นความเสียหายบนทรัพย์สิน โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)จะต้องเป็นหน่วยงานหลักในการรวบรวมความเสียหายต่าง ๆ และดำเนินการสืบสวนเพื่อดูว่าใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง
นายอนุทินเน้นย้ำว่า ณ ขณะนี้ยังเป็นช่วงเวลาเบื้องต้นที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ แต่จะต้องไปดูว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากอะไร ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง หรือเกิดจากการออกแบบ โดยย้ำว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องทางวิศวกรรมศาสตร์ล้วน ๆ และจะต้องหาผู้รับผิดชอบและสาเหตุที่เกิดขึ้นให้ได้แน่นอน
สำหรับแนวทางการสืบสวนและหาทางแก้ไข จะใช้รูปแบบคล้ายกับเหตุการณ์ตึกสตง. (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) ถล่ม โดยจะมีการระดมกำลังผู้เชี่ยวชาญ และได้มีการขอความร่วมมือจากหลายหน่วยงานครบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรรมสถาน,สภาวิศวกร ,กรมโยธาธิการ ,สำนักโยธา กทม. ,คณะวิศวกรรมศาสตร์จากสถาบันที่เคยแสวงหาความร่วมมือ
"กรมโยธาธิการจะเป็นเจ้าภาพในการรวบรวมนักวิชาการ ผู้มีความรู้ทางด้านเทคนิค รวมถึงผู้ที่มีเทคโนโลยีในเรื่องของการเจาะอุโมงค์และการทำงานใต้ดิน สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือการเร่งหาสาเหตุให้ได้ก่อน โดยเชื่อว่าจะหาเหตุที่ทำให้เกิดการยุบตัวของดินนี้ให้ได้ภายใน 1-2 วันนี้"
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ยังเป็นการสันนิษฐานเบื้องต้น โดยจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์คือการที่ประชาชนเห็นน้ำขึ้นมาบนพื้นถนน ซึ่งเป็นความผิดปกติก่อนที่จะมีการยุบตัวและทรุดตัว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีอุโมงค์ 2 ชั้น ซ้อนกันคนละระดับ จึงต้องมีการขยายผลและตรวจสอบว่า
ทาง รฟม. จะต้องเร่งสำรวจแนวเส้นรถใต้ดินทั้งหมด ทั้งที่ก่อสร้างเสร็จแล้วและกำลังก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับประชาชน
ในส่วนของการฟื้นฟูนั้น พื้นที่นี้ยังต้องมีการใช้งานต่อไป จึงต้องเร่งบูรณะและเชื่อมต่อเพื่อให้โครงการสามารถใช้งานได้ นอกจากนี้จะมีการเยียวยาผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งรวมถึงยวด ยานพาหนะที่ตกลงไปในพื้นที่
ในส่วนของผลกระทบที่มีต่อรพ.วชิรพยาบาล ล่าสุดทางโรงพยาบาลหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกเป็นเวลา 2 วันอย่างไรก็ตามผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยใน และกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ยังคงให้บริการตามปกติอยู่