สธ. ยันงบ 3.3 พันล้านก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่คุ้มค่า

02 ก.ย. 2568 | 06:25 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ย. 2568 | 06:26 น.

กรมการแพทย์ ยันก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่ที่บางขุนเทียนคุ้มค่า หลังสภาฯไฟเขียวงบฯ กว่า 3.3 ล้านบาทที่ใช้งานมากว่า 55 ปี ไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วยมะเร็งที่เพิ่มขึ้นกว่า 1.4 แสนคนต่อปี คาดเปิดให้บริการปี 2573

KEY

POINTS

  • กรมการแพทย์ได้รับอนุมัติงบประมาณ 3.3 พันล้านบาทเพื่อก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่ ยืนยันว่าจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
  • การก่อสร้างมีความจำเป็นเนื่องจากอาคารเดิมมีสภาพเก่าและคับแคบ ไม่สามารถขยายเพื่อรองรับผู้ป่วยมะเร็งที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
  • โครงการใหม่จะก่อสร้างบนที่ดินบริจาคย่านบางขุนเทียนใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี (พ.ศ. 2569-2573) เพื่อเป็นศูนย์รักษา วิจัย และฝึกอบรมด้านโรคมะเร็งที่ทันสมัยและครบวงจร

2 กันยายน 2568 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีมติเห็นชอบงบประมาณโครงการก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่ของกรมการแพทย์ ในวาระ 2-3 โดยไม่มีการถูกตัดงบประมาณแต่อย่างใด พร้อมขอขอบคุณในข้อห่วงใยของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการที่ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานในงบประมาณดังกล่าว

ทั้งนี้ กรมการแพทย์จะขอรับไปดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนต่อไป

การสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่ (บางขุนเทียน) เกิดขึ้นเนื่องมาจากอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งซึ่งเป็นปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุขของประเทศ จากสถิติปัจจุบันพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่กว่า 140,000 คนต่อปี และผู้เสียชีวิตกว่า 86,000 คนต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หนึ่งในหน่วยงานหลักของกรมการแพทย์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางขั้นสูงด้านโรคมะเร็งที่มีภารกิจในการดูแลรักษาและรับส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งที่มีความซับซ้อนจากทั่วประเทศ โดยแต่ละปีมีผู้เข้ารับบริการประมาณ 50,000 ราย หรือมากกว่า 270,000 ครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (เพิ่มจาก 232,640 ในปี 2565 เป็น 276,760 ครั้งในปี 2567)

สธ. ยันงบ 3.3 พันล้านก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่คุ้มค่า

นอกจากนี้ยังเป็นหน่วยงานหลักของประเทศในการจัดทำข้อมูลด้านโรคมะเร็ง จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งของประเทศ และจัดทำข้อเสนอด้านสิทธิประโยชน์แก่กองทุนต่าง ๆ เช่น สิทธิบัตรทอง ประกันสังคม และ ข้าราชการ ในด้านการคัดกรองมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง

ทั้งนี้ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ตั้งอยู่ ณ บริเวณถนนพระราม 6 เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่อย่างจำกัดเพียง 5 ไร่เศษ และก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 รวมระยะเวลาจนถึงปัจจุบัน กว่า 55 ปี ตัวอาคารจึงมีสภาพเก่าและชำรุดทรุดโทรม การปรับปรุงซ่อมแซมขยับขยายพื้นที่เพื่อรองรับการให้บริการผู้ป่วยไม่สามารถทำได้โดยสะดวกเนื่องจากโครงสร้างเดิมไม่เอื้ออำนวยและมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด อีกทั้งยังติดขัดด้วยข้อกฎหมายผังเมืองของกรุงเทพมหานครจึงไม่สามารถสร้างเป็นอาคารสูงได้

ต่อมาในปี 2565 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้รับที่ดินบริจาคจากครอบครัวคนึงสุขเกษม จำนวนประมาณ 90 ไร่ ในเขตบางขุนเทียนกรุงเทพมหานคร ภายใต้วัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นสาธารณประโยชน์ทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุข โดยไม่มีค่าตอบแทนและเงื่อนไข

สธ. ยันงบ 3.3 พันล้านก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่คุ้มค่า

ด้วยเหตุนี้เอง กรมการแพทย์จึงได้พิจารณานำพื้นที่บริจาคนี้ดำเนินโครงการพัฒนาสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่ (บางขุนเทียน) เพื่อรองรับและตอบสนองต่อการให้บริการทางด้านการแพทย์แก่ประชาชน เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ การวิจัย และฝึกอบรมเฉพาะทางด้านโรคมะเร็งแก่บุคลากรทางการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันบุคลากรสถาบันมะเร็งแห่งชาติ มีประมาณ 1,000 คน ซึ่งมีเพียงพอสำหรับการดำเนินงานในอาคารสถาบันมะเร็งแห่งชาติ บางขุนเทียน เมื่อเริ่มเปิดใช้งานจริง

โครงการก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่นี้ จะใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี ระหว่างปี 2569-2573 ด้วยวงเงินงบประมาณ 3,307 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารผู้ป่วยนอก มีห้องตรวจ จำนวน 95 ห้อง ศูนย์เคมีบำบัด ศูนย์รังสีรักษาที่รองรับเครื่องฉายรังสี 4 เครื่อง ศูนย์ผ่าตัดและการรักษาผ่านสายสวนด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ศูนย์ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วย อาคารผู้ป่วยในที่ประกอบด้วย ICU จำนวน 10 เตียง หอผู้ป่วย จำนวน 250 เตียง รวมถึงหอผู้ป่วยสำหรับการดูแลประคับประคองผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย รองรับผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษา ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเยียวยาจิตใจผู้ป่วยโรคมะเร็ง

นอกจากนี้ยังมีศูนย์วิจัยด้านโรคมะเร็ง ศูนย์ฝึกอบรมแพทย์ พยาบาล และสหวิชาชีพเฉพาะทาง สำหรับบุคลากรทั้งในและต่างประเทศ ทั้งหมดนี้เพื่อรองรับปัญหาด้านโรคมะเร็งที่ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทยที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สธ. ยันงบ 3.3 พันล้านก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่คุ้มค่า

ทั้งนี้ สำหรับโครงการเครื่องฉายรังสีแบบ heavy ion/proton เป็นเทคโนโลยีการฉายรังสีที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าที่มีอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบัน ยังเป็นแผนอนาคตในระยะถัดไปหลังจากการก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่แล้วเสร็จ ซึ่งยังอยู่ในการพิจารณารูปแบบการบริหารจัดการ และจัดทำการประเมินความคุ้มค่าคุ้มทุน และยังไม่มีการเสนอของบประมาณในส่วนนี้

ดังนั้น กรมการแพทย์ขอยืนยันว่า การใช้งบประมาณดำเนินงานในโครงการต่างๆ ที่ได้รับการจัดสรรในปัจจุบัน รวมทั้งการดำเนินแผนงานในอนาคตจะต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสและรัดกุมที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน