สธ. เตือนระวังป่วย โรคเมลิออยด์ แนะหลีกเลี่ยงเดินลุยน้ำย่ำโคลน

11 ก.ค. 2568 | 07:15 น.

สธ. เตือนปชช. ระวัง โรคเมลิออยด์ พบมากช่วงหน้าฝน เชื้อเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล-หายใจ -กินอาหารปนเปื้อน แนะเลี่ยงเดินลุยน้ำย่ำโคลน หากจำเป็นควรใส่รองเท้าบู๊ตและทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลังขึ้นจากน้ำ

ประเทศไทยในหลายพื้นที่วันนี้ยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่ทำให้มีน้ำท่วมขัง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนประชาชนถึงโรคภัยสุขภาพต่าง ๆ ที่จะมากับน้ำช่วงหน้าฝนนี้

แพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม เกษตรกร หรือผู้ที่ต้องทำงานสัมผัสดินและน้ำโดยตรง รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคไตเรื้อรัง และโรคธาลัสซีเมีย จะมีความเสี่ยงป่วยโรคเมลิออยด์สูง โดยเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุจะอยู่ในดินและในน้ำ จะเข้าสู่ร่างกายได้ทางเยื่อบุผิวหนังหรือบาดแผล การดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป รวมถึงการสูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป

หลังติดเชื้อโดยเฉลี่ย 4 - 9 วัน จะมีอาการเจ็บป่วย เร็วสุดหนึ่งวันแต่บางรายอาจนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภาวะภูมิคุ้มกันของแต่ละคน อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ อาจเป็นการติดเชื้อเฉพาะที่หรือติดเชื้อแล้วแพร่กระจายทั่วทุกอวัยวะก็ได้ ซึ่งมีความหลากหลายคล้ายโรคติดเชื้ออื่นหลายโรค

แพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค

ส่วนใหญ่เริ่มจากมีไข้ มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ หายใจหอบเหนื่อย เป็นต้น บางรายพบมีฝีที่ผิวหนัง ปอด ตับหรือม้าม ในรายที่มีอาการรุนแรง มักมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด จึงทำให้วินิจฉัยโรคได้ยาก ต้องอาศัยการตรวจเพาะเชื้อทางห้องปฏิบัติการเป็นหลัก เพื่อใช้ประกอบการตรวจวินิจฉัยและรักษา

สถานการณ์โรคเมลิออยด์ ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรคดิจิทัล (Digital Disease Surveillance: DDS) กองระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 9 กรกฎาคม 2568 พบผู้ป่วย 1,676 ราย ผู้เสียชีวิต 72 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูง 3 อันดับแรก คือ กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 693 ราย รองลองมาเป็นกลุ่มอายุ 50 - 59 ปี (449 ราย) และกลุ่มอายุ 40 - 49 ปี (247 ราย) ตามลำดับ พื้นที่ที่พบผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุดห้าอันดับแรกคือ มุกดาหาร 15.82 ต่อประชากรแสนคน ยโสธร (11.10) บึงกาฬ (9.77) นครพนม (9.66) และ บุรีรัมย์ (8.64) ตามลำดับ

นายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค

นายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วิธีการป้องกันโรคเมลิออยด์สามารถทำได้ ดังนี้ 

1. หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือสัมผัสดินและน้ำโดยตรง หากจำเป็นขอให้สวมรองเท้าบู๊ต ถุงมือยาง กางเกงขายาวหรือชุดลุยน้ำ หลังสัมผัสดินและน้ำให้ทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที 

2. หากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทำความสะอาดด้วยยาฆ่าเชื้อและหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำจนกว่าแผลจะแห้งสนิท 

3. รับประทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำในบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานหรือน้ำต้มสุกทุกครั้ง 

4. หลีกเลี่ยงการสูดดมลมฝุ่นและการอยู่ท่ามกลางสายฝน 

5. หากมีอาการไข้สูงต่อเนื่อง 2 วัน ร่วมกับมีประวัติการสัมผัสดินและน้ำ ให้รีบพบแพทย์ทันที โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ป่วยโรคเบาหวาน