30 มิถุนายน 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 3/2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมมีมติรับทราบความคืบหน้าการเตรียมการจัดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 พ.ศ. 2568 รวมถึงการจัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2568 และการจัดสมัชชาสุขภาพสากลเมืองพัทยา ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2568
สำหรับสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 พ.ศ. 2568 จะมีการจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย. 2568 ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี ภายใต้ประเด็นหลัก (Theme) “เศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างสุขภาวะไทยยั่งยืน” ซึ่งปัจจุบันมีประเด็นที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นระเบียบวาระ จำนวน 5 ประเด็น
1. การขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างเป็นธรรมด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
2. การสร้างโอกาสและมูลค่าเพิ่มในเศรษฐกิจสูงวัย (Silver Economy)
3. ภูมิรัฐศาสตร์โลกกับระบบสุขภาพไทยและระบบสุขภาพชายแดน
4. ระบบสุขภาพในภาวะวิกฤตการจัดการภัยพิบัติ
5. กลไกร่วมการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อรองรับระบบสุขภาพระดับพื้นที่/ชุมชนท้องถิ่น
นายประเสริฐ เปิดเผยว่า กระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติถือเป็นกลไกนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ภายใต้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ที่ถูกใช้เป็นพื้นที่กลางในการพัฒนาและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาวะที่สำคัญของประเทศมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 18 ปี เช่นเดียวกับระเบียบวาระต่าง ๆ ในปีนี้ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่การแก้ไขประเด็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพไม่ว่าจะเป็นในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่มีความซับซ้อนอย่างมากในปัจจุบันจึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามาร่วมกันหาแนวทาง หรือออกแบบนโยบายในการรับมือไปด้วยกัน
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า ภายในระยะเวลา 4 เดือนที่เหลืออยู่ก่อนการจัดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มีข้อเสนอจากที่ประชุม คสช. ต่อการเพิ่มความน่าสนใจ หรือความชีวิตชีวาภายในงาน
แนวทางหนึ่ง คือ การดึงการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคเอกชน หรือตัวอย่างแนวทางจากการจัดงาน Osaka World Expo 2025 ที่ดึงความน่าสนใจเข้ามาประกอบการนำเสนอข้อมูลวิชาการให้ความรู้ เป็นต้น รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ซึ่งทาง มท. พร้อมที่จะสนับสนุนกระบวนการสมัชชาสุขภาพให้เกิดประโยชน์และประสบความสำเร็จต่อไป
ด้านนายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ ประธานกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 17-18 กล่าวว่า กระบวนการพัฒนาระเบียบวาระของประเด็นต่าง ๆ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแต่ละนโยบายจะไม่ได้พัฒนาร่วมกันเฉพาะในระดับส่วนกลางเท่านั้นแต่จะมีการรับฟังความเห็นและเชื่อมโยงการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่และสมัชชาสุขภาพจังหวัดด้วย
โดยในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ แต่ละมติจะพัฒนาจนได้เอกสารที่นำไปจัดเวทีรับฟังความเห็นระดับประเทศ และในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. จะมีการจัดเวทีรับฟังความเห็นระดับภาค เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละระดับได้ร่วมกันให้ข้อเสนอแนะ และปรับปรุงเอกสารมติเหล่านี้ให้มีความแหลมคม และสมบูรณ์พร้อมที่จะนำเข้าสู่เวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติต่อไป
ขณะที่สมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2568 จะมีการพัฒนาประเด็นสาธารณะเพื่อรองรับวิกฤตของชุมชนอาคารสูง จำนวน 2 เรื่อง คือ 1. สูงวัยในอาคารสูง 2.เตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติของชุมชนอาคารสูง พร้อมกันนั้นจะมีการพัฒนาประเด็นมติสมัชชาสุขภาพระดับโซนนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 2 กลุ่มเขตนำร่อง ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ และกลุ่มเขตกรุงธนเหนือ เพื่อทดลองการพัฒนาประเด็นนโยบายสาธารณะให้ครอบคลุมและทั่วถึงประชาชนที่หลากหลายในพื้นที่ กทม.