ทีมสภานายกพิเศษเสียงแตก โยนสมศักดิ์ชี้ขาดลงโทษหมอชั้น 14 รักษาทักษิณ

26 พ.ค. 2568 | 12:40 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ค. 2568 | 14:09 น.

ทีมสภานายกพิเศษ สรุปความเห็น มติแพทยสภา ส่งให้ สภานายกพิเศษตัดสินใจ 27 พ.ค.นี้ เผย กรรมการมีทั้งเห็นด้วย และเห็นต่าง คาด "สมศักดิ์" เคาะข้อสรุปสุดท้าย 29 พ.ค.นี้

ในการประชุมคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 พิจารณากรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์รักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รักษาตัว ชั้น 14 ในโรงพยาบาล (รพ.) ตำรวจ ซึ่งมีนายชัยนันท์ งามขจรกุลกิจ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษ โดยคาดว่าจะเป็นนัดสุดท้ายนั้น 

ล่าสุด นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษฯ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า วันนี้มีการพิจารณาในประเด็นข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และมาตรฐานจริยธรรมทางวิชาชีพ เป็นการนำเสนอความคิดเห็นของกรรมการแต่ละคนที่มีต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งเป็นความเห็นแยกรายบุคคลโดยความเห็นของที่ประชุมมีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยต่อมติแพทยสภา

รวมไปถึงอาจมีการเพิ่มเติมหรือลดบทลงโทษและชี้ให้เห็นในบางข้อกฏหมาย เนื่องจากมีรายละเอียด เอกสารประกอบ การลงโทษ และข้อกฎหมายที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องกลับไปปรับแก้เอกสารและถ้อยคำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

โดยในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. คณะกรรมการฯ จะส่งหนังสือความเห็นทั้งหมดให้กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ และหลังจากการส่งความเห็นอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (27 พฤษภาคม ) การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้จะถือว่าสิ้นสุดลง

จากนั้นเป็นหน้าที่ของนายสมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษที่จะพิจารณาว่า จะเห็นชอบ หรือ ยับยั้งมติของแพทยสภา โดยการจะตัดสินใจอย่างไรนั้นเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของสภานายกพิเศษ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ 

สำหรับตามขั้นตอนต่าง ๆ หลังจากที่ บอร์ดแพทยสภา ส่งเรื่องให้ นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข ได้พิจารณาแล้ว อาจมีคำสั่งยับยั้งมติได้ หรือ ถ้าไม่มีคำสั่งใด ๆ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ รมว.สธ. ได้รับมติ (15 พ.ค.68) ให้ถือว่า รมว.สธ. ให้ความเห็นชอบมตินั้น 

-กรณี "เห็นชอบ" แพทยสภา จะนำเอามติมาทำเป็นคำสั่งแพทยสภา 

-กรณี "ไม่เห็นชอบ" หรือ มีการยังยั้งมติจาก รมว.สธ. 

ขั้นตอนถัดไป คือ ทางคณะกรรมการแพทยสภาจะต้องพิจารณามติเรื่องนี้อีกครั้งในที่ประชุม หากต้องการยืนยันว่า จะดำเนินการตามมติเดิมของแพทยสภา จะต้องมีเสียงเห็นชอบจาก กรรมการ เป็นจำนวน 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งคณะ ปัจจุบันต้องมี 47 เสียง ถ้าได้ 47 เสียง เห็นชอบ ก็จะทำเป็นคำสั่งแพทยสภาได้

ทั้งนี้ คำสั่งแพทยสภาให้ลงโทษใด ๆ หรือยกข้อกล่าวโทษ ถือว่าเป็นที่สุด อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเนื่องจากมีระบบศาลปกครอง คำสั่งแพทยสภาถือว่า เป็นคำสั่งทางปกครอง ผู้เสียหายสามารถยื่นขอเพิกถอนคำสั่งได้โดยให้ศาลปกครองพิจารณาต่อไป