"ความดันสูง" ภัยเงียบทำลายจอตา อาจสูญเสียการมองเห็นถาวร

10 พ.ค. 2568 | 04:10 น.

หมอตาย้ำความดันโลหิตสูง ส่งผลให้จอตาผิดปกติ ภัยเงียบคุกคามการมองเห็น แนะผู้ป่วยควบคุมความดันสม่ำเสมอพร้อมตรวจจอตาประจำปี

โรคความดันโลหิตสูงไม่เพียงส่งผลเสียต่อหัวใจและหลอดเลือดเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความเสียหายรุนแรงต่อจอตาจนนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยและเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงจอตา ภาวะที่เรียกว่า "Hypertensive Retinopathy" หรือความผิดปกติของจอตาจากโรคความดันโลหิตสูงนั้น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดในจอตาอันเป็นผลจากความดันโลหิตที่สูงผิดปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที

\"ความดันสูง\" ภัยเงียบทำลายจอตา อาจสูญเสียการมองเห็นถาวร

ด้านนายแพทย์กิตติวัฒน์ มะโนจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงเรื้อรัง จะส่งผลให้ผนังหลอดเลือดในจอตาเกิดการหดตัว หนาตัว และแข็งตัว ทำให้การไหลเวียนของเลือดลดลง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญได้แก่ ความดันโลหิตที่ควบคุมไม่ได้ โรคไต โรคเบาหวาน การสูบบุหรี่ และอายุที่เพิ่มขึ้น

"ผู้ป่วยอาจเกิดอาการในแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ในกรณีของภาวะความดันโลหิตสูงแบบเฉียบพลันรุนแรง หรือ Malignant Hypertension อาจทำให้มีอาการปวดตา ปวดศีรษะ หรือมองเห็นลดลงอย่างฉับพลัน ในขณะที่ภาวะเรื้อรังมักไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปและมีความผิดปกติรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการมองเห็นพร่ามัวหรืออาจสูญเสียการมองเห็น โดยเฉพาะในกรณีที่มีการรั่วของหลอดเลือดหรือบวมของจอตา"

\"ความดันสูง\" ภัยเงียบทำลายจอตา อาจสูญเสียการมองเห็นถาวร

ขณะที่แพทย์หญิงวรินทร์ สมิทธิเมธินทร์ จักษุแพทย์ด้านจอตาและวุ้นตา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) อธิบายเพิ่มเติมว่า การวินิจฉัยความผิดปกติของจอตาจากโรคความดันโลหิตสูงทำได้โดยการสอบถามประวัติ การวัดความดันโลหิต และการตรวจจอตาด้วยกล้องส่องจอตา (Ophthalmoscope) หรือการถ่ายภาพจอตา (fundus photography)

"แนวทางการรักษาหลักคือการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั้งด้วยการใช้ยาและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การลดน้ำหนัก ลดการบริโภคเกลือ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีภาวะแทรกซ้อน เช่น การบวมของจอตาหรือมีเลือดออก ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที"

จักษุแพทย์ยังเน้นย้ำว่า การป้องกันความผิดปกติของจอตาจากโรคความดันโลหิตสูงสามารถทำได้ด้วยการควบคุมความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ และการตรวจสุขภาพรวมถึงการตรวจจอตาเป็นประจำ โดยการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดโดยจักษุแพทย์จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็น

\"ความดันสูง\" ภัยเงียบทำลายจอตา อาจสูญเสียการมองเห็นถาวร

"ความผิดปกติของจอตาจากโรคความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่สามารถป้องกันและจัดการได้ หากได้รับการตรวจวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม การควบคุมความดันโลหิตและการตรวจจอตาอย่างสม่ำเสมอ เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันภาวะแทรกซ้อน ทุกคนควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง"