เห็นจุดดำลอยวูบวาบ ระวัง “วุ้นตาเสื่อม” หากร้ายแรงอาจทำให้ตาบอด

09 พ.ค. 2568 | 22:00 น.

แพทย์เตือนระวัง “วุ้นตาเสื่อม” ภัยเงียบเสี่ยงจอตาฉีกขาดหลุดลอก จนสูญเสียการมองเห็น ระวังเห็นจุดดำลอยวูบวาบอย่านิ่งนอนใจ เพราะอาจไม่ใช่แค่สายตาพร่ามัว

พญ.รุ่งรวี สัจจานุกูล จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า วุ้นตาเสื่อม หรือ “โรควุ้นตาเสื่อม” เป็นภาวะที่มักเกิดขึ้นเงียบ ๆ โดยที่คนปกติทั่วไปอาจไม่ทันสังเกต พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมากถึง 2 ใน 3 ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปต้องเผชิญกับภาวะนี้ โดยเฉพาะหากละเลยไม่ดูแล อาจนำไปสู่ปัญหาทางตาที่รุนแรงอย่าง “จอตาฉีกขาด” ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

เห็นจุดดำลอยวูบวาบ ระวัง “วุ้นตาเสื่อม” หากร้ายแรงอาจทำให้ตาบอด

โดยวุ้นตาเป็นสารลักษณะคล้ายเยลลี่อยู่ในลูกตาส่วนหลัง ทำหน้าที่ช่วยรักษารูปร่างลูกตา เป็นทางผ่านของแสงและเป็นแหล่งอาหารของตา แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น วุ้นตาจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพ ละลายเป็นน้ำและหดตัว ทำให้เกิดการดึงรั้งจอตา คล้ายกับการลอกสติ๊กเกอร์ออกจากกระดาษ ที่บางครั้งอาจมีเนื้อกระดาษติดออกมาด้วย ซึ่งหากแรงดึงนั้นมากเกินไป ก็อาจทำให้จอตาฉีกขาดได้

แม้ว่าโรคนี้จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่จากงานวิจัยพบว่าในกลุ่มผู้ที่มีอาการวุ้นตาเสื่อม มีเพียง 6-14.5% เท่านั้นที่พัฒนาไปถึงขั้นจอตาถูกดึงจนเกิดรอยฉีก และภาวะวุ้นตาเสื่อมจะพบมากขึ้นในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น สายตาสั้นมากกว่า -6 ไดออปเตอร์ เคยผ่าตัดจอตาหรือต้อกระจก เคยได้รับอุบัติเหตุที่ดวงตา หรือผู้ที่มีโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดี

สำหรับอาการของวุ้นตาเสื่อมที่พบบ่อย 

  • เห็นจุดดำลอยไปมา 
  • เห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบ ซึ่งอาจเกิดขึ้นชั่วขณะ 

ทั้ง 2 กรณีถ้าเกิดขึ้นบ่อยขึ้นหรือมีจำนวนมากขึ้น จนรบกวนการมองเห็นในชีวิตประจำวัน ควรเข้ารับการตรวจอย่างละเอียด บางรายอาจสังเกตอาการได้ชัดเจนเมื่อต้องมองพื้นเรียบ เช่น ผนังหรือท้องฟ้า โดยเฉลี่ยแล้วอาการเหล่านี้อาจคงอยู่นานราว 3 เดือน บางคนอาจค่อย ๆ ปรับตัวจนชินกับจุดดำที่ลอยไปมาได้โดยไม่จำเป็นต้องรักษาใด ๆ 

เห็นจุดดำลอยวูบวาบ ระวัง “วุ้นตาเสื่อม” หากร้ายแรงอาจทำให้ตาบอด

แต่หากมีอาการที่บ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เห็นเงาดำคล้ายม่านน้ำบัง มองเห็นเงาดำครึ้มในมุมสายตา หรือภาพพร่ามัวในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของสายตา อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังเกิดจอตาฉีกขาดหรือหลุดลอก ต้องรีบพบจักษุแพทย์ทันทีเพื่อทำการตรวจขยายม่านตา หากตรวจพบรอยรั่วเล็ก ๆ ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ยังสามารถรักษาได้ด้วยเลเซอร์ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน

การรักษาวุ้นตาเสื่อม

  • ปัจจุบันมีทั้งวิธีเลเซอร์ เพื่อลดขนาดของตะกอนที่ลอยอยู่ในวุ้นตาให้รบกวนน้อยลง
  • การผ่าตัดเอาวุ้นตาออก ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากมีทั้งข้อดีและความเสี่ยงร่วมกัน
  • โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยลองปรับตัวและใช้ชีวิตร่วมกับอาการก่อน หากยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยเฉพาะในกรณีที่ตะกอนมีขนาดเล็กมาก

เห็นจุดดำลอยวูบวาบ ระวัง “วุ้นตาเสื่อม” หากร้ายแรงอาจทำให้ตาบอด

พญ.รุ่งรวี กล่าวว่า แพทย์ส่วนใหญ่ก็จะไม่แนะนำให้รักษาด้วยวิธีเลเซอร์และการผ่าตัด เพราะทุกการรักษาย่อมมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เมื่อตรวจวินิจฉัยแล้ว คนไข้ไม่ได้มีอาการที่รุนแรงที่มีความเสี่ยง หรือส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้คนไข้ปรับตัวและมองข้ามจุดเล็ก ๆ เหล่านั้นไป

นอกจาก “โรควุ้นตาเสื่อม” แล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยในยุคดิจิทัลคือ “โรคตาแห้ง” โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน อยู่ในห้องปรับอากาศเป็นประจำ เผชิญกับมลภาวะ ฝุ่น ควัน หรือใส่คอนแทคเลนส์ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้ต่อมไขมันบริเวณเปลือกตาฝ่ออย่างถาวร ส่งผลให้ไม่สามารถสร้างน้ำมันเพื่อเคลือบดวงตาได้อีก ทำให้ตาแห้งเรื้อรัง มีอาการระคายเคือง พร่ามัว แพ้แสง และในบางรายอาจส่งผลให้เกิดความเครียดจนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า