รู้จัก โรคลิชมาเนีย อันตรายจากแมลงรื้อฝอยทราย อาการ-วิธีป้องกัน

25 เม.ย. 2568 | 05:45 น.
อัปเดตล่าสุด :25 เม.ย. 2568 | 05:47 น.

โรคลิชมาเนีย อันตรายจากแมลงรื้อฝอยทราย กรมควบคุมโรค รายงานผู้ป่วยสะสม 45 ราย เสียชีวิต 7 ราย ระบุปี 2568 พบผู้ป่วย 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย เปิดสาเหตุ อาการและวิธีป้องกันโรค

จากการเผยแพร่ข้อความผ่านทางสื่อออนไลน์กรณีการติดเชื้อโรคลิชมาเนียในประเทศไทยโดย กรมควบคุมโรค ได้อธิบายพร้อมให้ข้อมูลว่า การพบโรคลิชมาเนียมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน รายงานผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 45 ราย เสียชีวิต 7 ราย สำหรับปี 2568 พบรายงานผู้ป่วย 2 รายและเสียชีวิต 1 ราย 

ฐานเศรษฐกิจ พาไปรู้จักกับ โรคลิชมาเนีย หรือ โรคคาลาอาซาร์ กันให้มากขึ้นทั้งอาการและวิธีการป้องกัน

โรคลิชมาเนีย หรือ โรคคาลาอาซาร์ แพร่มาสู่คนโดยแมลงรื้อฝอยทราย (Sand fly) เพศเมียดูดเลือดของสัตว์ที่มีเชื้อโปรโตซัวในตระกูล ลิชมาเนีย (Leishmania) ซึ่งอยู่ในเซลล์เม็ดเลือดขาวของสัตว์ แล้วมากัดคนต่อหลังคนติดเชื้อจะมีระยะฟักตัวโดยเฉลี่ยประมาณ 3-6 เดือน   

อาการแสดงของโรคลิชมาเนีย

มีทั้งอาการที่แสดงออกทางอวัยวะภายใน (Visceral leishmaniasis), แสดงอาการทางผิวหนัง (Cutaneous leishmaniasis) และแสดงอาการทั้งอวัยวะภายในร่วมกับอาการทางผิวหนัง เช่น มีไข้เรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ ท้องอืด ตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโต ผิวหนังคล้ำและเกิดรอยโรคที่ผิวหนัง 

จากข้อมูลล่าสุดพบว่า มีเชื้อลิชมาเนีย 2 ชนิดระบาดในประเทศไทย คือ ลิชมาเนียสายพันธุ์ไทย (L. siamensis) และลิชมาเนียที่พบในผู้ป่วยในเกาะมาร์ตินีก (Martinique Island) ซึ่งมีชื่อว่า L. martiniquensis ทั้งยังมีรายงานว่า พบการติดเชื้อในวัวและม้าในประเทศเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา โดยแสดงอาการที่ผิวหนังในสัตว์ด้วย

การป้องกันโรคลิชมาเนีย

  • ประชาชนที่เข้าป่า ไปถ้ำ ทำสวน ทำไร่ ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดปกปิดร่างกาย
  • นอนในมุ้งและไม่ควรอยู่นอกบ้านช่วงพลบค่ำ
  • ทายากันแมลงบริเวณผิวหนังที่อยู่นอกร่มผ้า นอนกางมุ้งที่ชุบด้วยสารเคมีป้องกันยุงและแมลง
  • ดูแลบริเวณบ้านเรือนให้สะอาด
  • ผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคภายใน 3-6 เดือน หากมีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย มีอาการท้องเดิน ท้องผูก เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ให้พบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทาง เพื่อการรักษาอย่างรวดเร็วและถูกต้อง

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422