11 เมษายน 2568 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำประปาที่ใช้ในการบริโภคอย่างเข้มงวด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าน้ำประปาที่ส่งจ่ายถึงบ้านเรือนมีความสะอาด ปราศจากเชื้อโรค และสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยกำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำประปาที่ใช้สำหรับการบริโภค
อ้างอิงตามหลักเกณฑ์มาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และผ่านการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อวิเคราะห์คุณภาพน้ำประปาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น
พร้อมนำข้อมูลดังกล่าวมาสังเคราะห์เพื่อให้คำแนะนำแก่หน่วยงานผู้ผลิตน้ำประปาในการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริมความรู้ความเข้าใจรณรงค์และให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการใช้น้ำประปาอย่างถูกสุขลักษณะ และการสังเกตคุณภาพน้ำเบื้องต้น
นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนสามารถตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาเบื้องต้นได้ ดังนี้
1. สังเกตลักษณะของน้ำประปา หากมีสี กลิ่น หรือตะกอนผิดปกติ ควรแจ้งหน่วยงานที่ผลิตน้ำประปาเพื่อตรวจสอบ
2. น้ำประปาที่มีกลิ่นคลอรีนอ่อนๆแสดงว่าได้ผ่านการฆ่าเชื้อโรคมาแล้ว หากไม่ชอบหรือกังวลในกลิ่นดังกล่าวสามารถรองน้ำใส่ภาชนะพักไว้ประมาณ 30 นาที กลิ่นคลอรีนก็จะจางหายไป หรือกรองผ่านเครื่องกรองชนิดถ่านกัมมันต์จะสามารถดูดซับคลอรีนออกได้
3. ดูแลรักษาถังพักน้ำในบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยตรวจสอบและล้างทำความสะอาดถังพักน้ำทุก ๆ 6 เดือน
4. ดูแล ตรวจสอบระบบท่อประปาภายในบ้านให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสนิมหรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ
5. หากไม่มั่นใจในความสะอาดของน้ำประปาภายในบ้าน อาจจะนำมาต้ม หรือกรองผ่านเครื่องกรองที่มีระบบฆ่าเชื้อโรค เช่น หลอด UV ก่อนนำมาดื่ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเข้าถึงน้ำสะอาดและปลอดภัยของประชาชน น้ำประปาที่ผลิตตามมาตรฐานจึงเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญและเชื่อถือได้สำหรับการอุปโภคบริโภค รวมถึงการนำมาใช้ปรุงอาหารเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคน