มร.โยชิฮิโร ทาคาดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอลิค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูล Global Women’s Healthcare Market รวบรวมโดย Research and Markets.com ตลาดสุขภาพผู้หญิงทั่วโลกกําลังเติบโตอย่างมีนัยสําคัญ โดยคาดว่าในปี 2576 จะมีมูลค่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดที่มีสัดส่วนสูงสุดเกี่ยวข้องกับโรคทางนรีเวช หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง
การเติบโตนี้ เป็นผลมาจากความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของผู้หญิงที่เพิ่มขึ้น มีปัจจัยที่ขับเคลื่อน ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์ และการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน นอกจากนี้ ผู้หญิงทั่วโลกยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพเฉพาะด้านเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสุขภาพการเจริญพันธุ์ สุขภาพมารดาและทารก สุขภาพเต้านม การจัดการภาวะวัยหมดประจำเดือน และสุขภาพทางเพศ
ขณะที่ตลาดยาคุมกำเนิด (Contraceptive) ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์คุมกำเนิดทั้งหมดที่ผู้หญิงใช้ ปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 6,000 ล้านบาท ประเทศไทยครองส่วนแบ่งตลาดถึง 50% โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเผยข้อมูลใน Health Data Center เมื่อปี 2566 ไว้ว่า ผู้หญิงไทยมีอัตราการป่วยด้วยโรคที่สูงกว่าผู้ชาย โดยผู้หญิงอยู่ที่ 17 ล้านคน ส่วนผู้ชายอยู่ที่ 11 ล้านคน และภาวะโรคของสตรีที่พบได้สูง ได้แก่ โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปากมดลูก และอาการป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับทารกในครรภ์และถุงน้ำคร่ำ
โดยจะสังเกตได้ว่าการใช้ยาคุมกำเนินนับตั้งแต่หลังเกิดโควิด-19 มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นทุกปีจนถึงปัจจุบัน และขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโอลิคได้เริ่มส่งผลิตภัณฑ์รุกตลาดแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเข้าไปทำตลาดในส่วนของโรงพยาบาลและคลิกนิก และในปี 2568 นี้ จะเพิ่มร้านขายยาเข้ามาอีกหนึ่งช่องทาง
"ผู้หญิงแต่ละคนมีกลไกการเกิดโรคแตกต่างกัน และตอบสนองต่อยาต่างกัน เราจึงพัฒนายาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับบุคคลมากขึ้น และถือเป็นหน้าที่ของภาคเอกชนในการพัฒนายาที่เป็นนวัตกรรมและมีความก้าวหน้า เพื่อตอบสนองต่อระบบสุขภาพและระบบสาธารณสุขของผู้คน ทั้งให้ความรู้แบบองค์รวม โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ประชาชนสามารถเข้าถึงยาได้ง่ายกว่าในหลายประเทศ แม้ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างสำหรับประชากรบางคนในพื้นที่ชนบท"
มร.โยชิฮิโร กล่าวว่า กว่าระยะเวลา 40 ปีที่โอลิคได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในฐานะผู้นำการให้บริการอุตสาหกรรมการผลิตยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพแบบสัญญาจ้างครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยาชั้นนำกว่า 30 ประเทศทั่วโลก จากความเชี่ยวชาญในการผลิต ตั้งแต่ปรับปรุงพัฒนา ตรวจสอบวิธีวิเคราะห์ ผลิตและบรรจุ จัดเก็บและส่งมอบยา รวมถึงขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานการผลิตระดับสากล ทำให้โอลิค พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการดูแลสุขภาพผู้หญิง
เภสัชกรปัณณวิชญ์ จิตเมธีพงษ์ ผู้อำนวยการหน่วยธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ บริษัท โอลิค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีส่วนแบ่งการตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์คุมกำเนิดผู้หญิงค่อนข้างสูง และมีโอกาสขยายตัวอีกมาก เพราะคนไทยค่อนข้างใส่ใจการดูแลสุขภาพ และสามารเข้าถึงข้อมูลเรื่องยาได้ง่ายมีทางเลือกในการใช้ยามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 18-49 ปี ที่ต้องการเข้าถึงความปลอยภัย ฉะนั้นการให้ความรู้เรื่องยายจึงมีความสำคัญมาก
นอกจากนี้ ยังมีโรคทางนารีเวชที่จำเป็นต้องใช้ยาคุมกำเนิดเข้าไปมีส่วนร่วมในการรักษาโรค และผู้หญิงเริ่มมีความเครียด ตลอดจนภาวะแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ตลาดยาคุมกำเนิดขยายตัวมากขึ้นในอนาคต และโอลิคคาดว่า ตลาดสุขภาพผู้หญิงจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์การดูแลสุขภาพของผู้หญิงในปัจจุบัน
“นวัตกรรมยาคุมกำเนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนธรรมชาติของโอลิค เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้หญิงในประเทศไทยที่ประสบปัญหาสุขภาพผู้หญิง โดยปัจจุบันมีเวชภัณฑ์พร้อมให้บริการทั้งในสถานพยาบาลและร้านยาชั้นนำทั่วไปในประเทศไทย และพร้อมจะขยายตัวยาเพิ่มขึ้นในปีถัดไปตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น"
นอกจากนี้ ในโอกาสวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2568 โอลิคได้เตรียมกิจกรรมในการสร้างความตระหนักเรื่องสุขภาพผู้หญิง ส่งเสริมความรู้และการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ c]tการใช้ยาอย่างเหมาะสม สนับสนุนให้ผู้หญิงมีความรู้ในการตัดสินใจและมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพตนเอง ในรูปแบบของคอนเทนต์และกิจกรรมที่ให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ Be with HER - Empowering Her Health Decisions
อาทิ การเปิดช่องทางสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพผู้หญิงทางออนไลน์ในรูปแบบของวิดีโอขนาดสั้น พร้อมด้วยกิจกรรมที่จัดร่วมกับพันธมิตรด้านสุขภาพอื่นๆ ตลอดทั้งปี ซึ่งการสร้างความตระหนักเรื่องสุขภาพผู้หญิง ถือเป็นก้าวสำคัญของโอลิคในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบรับความต้องการด้านสุขภาพผู้หญิงตามยุคสมัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของผู้หญิง