ผู้ป่วยวิกฤตพุ่ง “รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” ขยายเตียง ICU – เพิ่มเทคโนโลยี

14 ต.ค. 2568 | 07:17 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ต.ค. 2568 | 07:22 น.

รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ขยายพื้นที่หอผู้ป่วยวิกฤต เพิ่มเตียง ICU รองรับผู้ป่วยวิกฤตพุ่ง จากสังคมสูงวัยและโรคซับซ้อน พร้อมนำนวัตกรรม SMART ICU เพิ่มศักยภาพการรักษา

KEY

POINTS

  • รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) เผชิญกับจำนวนผู้ป่วยวิกฤตที่เพิ่มสูงขึ้นจากผลกระทบของสังคมสูงวัยและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป
  • เพื่อรองรับสถานการณ์ โรงพยาบาลได้ขยายเตียงผู้ป่วยวิกฤต (ICU) จาก 75 เป็น 92 เตียง และเตรียมนำเทคโนโลยี SMART ICU มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
  • โรงพยาบาลยังมุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ และมีแผนขยายเตียงสำหรับผู้ป่วยกึ่งวิกฤตเพื่อการดูแลที่ต่อเนื่อง

รศ.นพ.สุนัย ลีวันแสงทอง รองผู้อำนวยการสายการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) ภายใต้การกำกับดูแลของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า ไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ความต้องการด้านบริการทางการแพทย์และสุขภาพของผู้สูงอายุจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคดิจิทัล ส่งผลต่อสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ และความซับซ้อนในการวินิจฉัยและการรักษา เสี่ยงเข้าสู่ภาวะวิกฤตที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งพบได้ในทุกช่วงวัย เหล่านี้ล้วนเป็นโจทย์สำคัญที่ท้าทายการพัฒนาระบบการแพทย์ในปัจจุบัน

 

ด้านผศ.พญ.ศรีสกุล จิรกาญจนากร ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะทาง (ผู้ป่วยวิกฤต) กล่าวว่า โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ได้เตรียมความพร้อมรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยวิกฤต เพิ่มจำนวนเตียง ICU จากเดิม 75 เตียง เป็น 92 เตียง เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยวิกฤตได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ผู้ป่วยวิกฤตพุ่ง “รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” ขยายเตียง ICU – เพิ่มเทคโนโลยี

โรงพยาบาลเตรียมนำนวัตกรรมทางการแพทย์ SMART ICU เข้ามาเสริมศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยคาดว่าจะสามารถนำมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายในปีหน้า เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ได้อย่างแม่นยำ ลดความคลาดเคลื่อนในการรักษา และสนับสนุนการตัดสินใจของทีมแพทย์แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังช่วยลดภาระงานของพยาบาล ทำให้บุคลากรสามารถทุ่มเทเวลาในการดูแลผู้ป่วยได้มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีโอกาสฟื้นตัวรวดเร็ว และกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

รวมทั้งการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวมด้วยความเข้าใจ (Empathy)  โดยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และพยาบาลเฉพาะทางผู้ป่วยวิกฤต รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ เช่น เภสัชกร นักกำหนดอาหาร นักกายภาพบำบัด โดยเน้นการสื่อสารด้วยความชัดเจน โปร่งใส ในมิติระหว่างโรงพยาบาลกับครอบครัวของผู้ป่วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจในแนวทางการรักษา ติดตามกระบวนการดูแล และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข

ผู้ป่วยวิกฤตพุ่ง “รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” ขยายเตียง ICU – เพิ่มเทคโนโลยี

“โรงพยาบาลกำลังเตรียมความพร้อมจะขยายจำนวนเตียงสำหรับการดูแลผู้ป่วยกึ่งวิกฤต เพื่อรองรับผู้ป่วยที่ผ่านพ้นวิกฤตจากหอผู้ป่วย ICU แต่ยังต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์และพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งญาติสามารถเฝ้าผู้ป่วยได้เหมือนกับหอผู้ป่วยปกติ จึงทำให้สามารถให้การรักษาพยาบาลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการเอื้อให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยสร้างกำลังใจให้การฟื้นตัวของผู้ป่วยให้ดีขึ้นตามลำดับ”