เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หลายคนจำเป็นต้องเผชิญกับฝนตกและความชื้นสูง ทำให้โรคประจำฤดูกาลเกิดบ่อยขึ้น นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เตือนว่า น้ำฝนอาจมีเชื้อโรคและสิ่งปนเปื้อนหลายชนิดที่ทำให้เราเจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะ 5 โรคยอดฮิตที่มักพบในช่วงนี้ ได้แก่
1.โรคจากไวรัส
โดยเฉพาะโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากไวรัสในน้ำฝน เด็กเล็กและทารกต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจลุกลามถึงการอักเสบของหลอดลมฝอย ทำให้หายใจลำบาก
2. คอติดเชื้อ
มักเริ่มจากอาการเจ็บคอ เมื่อกลืนน้ำฝนที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป จะทำให้คออักเสบตามมา พร้อมมีไข้ ปวดเมื่อย และน้ำมูกไหลในบางราย
3. ท้องเสียและอาหารเป็นพิษ
น้ำฝนที่ปนเปื้อนเชื้ออีโคไล สามารถติดมากับอาหารสด โดยเฉพาะอาหารที่ขายตามตลาดทั่วไป เชื้ออีโคไลทำให้ลำไส้อักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน และอาหารเป็นพิษ
4.ผิวหนังอักเสบ
น้ำฝนที่ขังตามพื้นถนนมักเน่าเสีย เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หากกระเด็นโดนผิวหนังอาจทำให้ผิวหนังอักเสบ แผลติดเชื้อ เกิดเชื้อรา คัน หรือเป็นตุ่มหนองได้ แนะนำให้ล้างมือและล้างเท้าหลังกลับบ้านทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยง
5.โรคฉี่หนู
โรคที่พบมากในพื้นที่น้ำขัง เช่น ทุ่งนา และในเมืองที่มีน้ำขังปนกับมูลหนู หากเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านแผลที่ผิวหนัง จะทำให้เกิดไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะน่อง และเบื่ออาหาร ควรระวังพื้นที่น้ำขังเป็นพิเศษ
เพื่อเตรียมรับมือและรักษาสุขภาพให้ดีในช่วงหน้าฝน นพ.กฤษดาแนะนำให้กินผักบุ้งในผัดผัก แกงส้มมะละกอ และดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำ เพื่อช่วยปรับสมดุลร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงของโรคที่มากับหน้าฝนได้อย่างได้ผล นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการตากฝนโดยไม่จำเป็น รักษาความสะอาด และดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
ด้วยความระมัดระวังและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เราจะผ่านช่วงฝนพรำไปได้อย่างปลอดภัย และลดโอกาสเจ็บป่วยจากโรคประจำฤดูฝนได้มากขึ้น