ทอท. ดีเดย์เปิดใช้อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ สนามบินภูเก็ต 16 ก.ย.นี้ หลังมั่นใจทดสอบระบบพร้อมแล้ว ดึง 35 แอร์ไลน์ ย้ายฐานปฏิบัติการบิน ทั้งวางแผนพัฒนาสเต็ปต่อไป โดยปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิม ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ พร้อมเล็งชงบอร์ดไฟเขียวงบ 1.20 หมื่นบาท ขยายศักยภาพสนามบินให้รองรับได้สูงสุด 18 ล้านคนต่อปี
[caption id="attachment_96572" align="aligncenter" width="500"]
สนามบินภูเก็ต[/caption]
นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท. เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า สนามบินภูเก็ต พร้อมจะเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 16 กันยายนนี้ หลังจากการทดสอบระบบอย่างเต็มรูปแบบ (Full Scale Trial) พบว่ามีความพร้อมในการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์แล้ว ซึ่งจะเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศที่สร้างใหม่ เพื่อขยายศักยภาพการรองรับของสนามบิน โดยจะมีสายการบินประจำและชาร์เตอร์ไฟลต์ที่ทำการบินในเส้นทางบินระหว่างประเทศรวมจำนวน 35 สายการบินที่จะย้ายฐานปฏิบัติการบินมาอยู่ที่อาคารดังกล่าว และหลังจากนั้นจะทยอยปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน ซึ่งจะปิดพื้นที่อย่างละครึ่ง เพื่อดำเนินการปรับปรุง ให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ
ทั้งนี้การเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เป็นโครงการสุดท้ายที่ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ ตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อขยายศักยภาพการรองรับผู้โดยสารของสนามบินภูเก็ตจาก 6.5 ล้านคนต่อปีเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี มูลค่าการลงทุน5,400 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย ทางขับและลานจอดรถ งานก่อสร้างและปรับปรุงระบบเติมน้ำมัน งานก่อสร้างอาคารทดแทน อาคารคลังสินค้า และงานอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
"ด้วยความที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเป็นอาคารใหม่ ทำให้สนามบินภูเก็ตต้องดำเนินการทดสอบระบบให้เกิดความมั่นใจทั้งการรองรับเที่ยวบินขาเข้าและขาออก ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้ที่ผ่านมาสนามบินภูเก็ต ได้ทำการทดสอบร่วมกับทั้ง 35 สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ได้ทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน2559 จนมีความมั่นใจว่าระบบมีความสมบูรณ์แล้วส่วนการเปิดให้บริการพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสนามบินภูเก็ต ซึ่งกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ ฯ เป็นผู้ชนะการประมูล ก็พร้อมเปิดให้บริการตามแผนเช่นกัน"
นางมนฤดี ยังกล่าวต่อว่า ศักยภาพของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ มีพื้นที่ถึง 7.2 หมื่นตารางเมตร ถูกออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้ 5 ล้านคนต่อปี รองรับผู้โดยสารในชั่วโมงคับคั่งได้ 2,400 คนต่อชั่วโมง ซึ่งจะมีพื้นที่ใหญ่กว่าอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบันที่ให้บริการทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ ที่มีพื้นที่อยู่ที่ราว 2 หมื่นตารางเมตร ทั้งนี้การเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ จะทำให้ช่วยลดปัญหาการคับคั่งในสนามบินได้ เพราะในปีที่ผ่านมาสนามบินภูเก็ตรองรับผู้โดยสาร 12.5 ล้านคนแล้ว และในปีงบประมาณ 2559 น่าจะเกิน 13 ล้านคน การเติบโตของเที่ยวบินอยู่ที่ 11-12% มีเที่ยวบินเข้า-ออกรวมกันกว่า 270 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งก็ถือว่าทะลุไปจนเกินการขยายศักยภาพของสนามบินในขณะนี้ ที่เมื่อแล้วเสร็จจะเพิ่มเป็น 12.5 ล้านคน
ดังนั้นในขณะนี้ทอท.ได้วางแผนขยายศักยภาพของสนามบินภูเก็ต เพิ่มขึ้นรวมเป็น 18 ล้านคนต่อปี ซึ่งเตรียมนำเรื่องเสนอบอร์ดทอท.พิจารณาในราวเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการขยายกรอบวงเงินลงทุน เพื่อการดำเนินการชดเชยผลกระทบด้านเสียงของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เนื่องจากครม.มีมติอนุมัติโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2552 และทอท. ได้สำรวจอาคารบ้านเรือนในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อปี 2555 - 2558 พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิมจำนวน 1,068 อาคาร เป็นจำนวน 1,671 อาคาร ซึ่งได้นับรวมอาคารของ ทอท. และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จึงปรับลดจำนวนอาคารที่ต้องชดเชยผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินโครงการ เหลือจำนวน 1,470 อาคาร
ทอท. จึงจำเป็นต้องขอขยายกรอบการลงทุนโครงการ สำหรับนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินการโครงการ จากเดิมจำนวน 5,791.122 ล้านบาท เป็นจำนวน 8,861.017 ล้านบาท นางมนฤดี กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ(อาคารหลังใหม่) เพื่อเพิ่มการรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคนเป็น 12.5 ล้านคน เดิมกำหนดไว้ว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2559 แต่เนื่องจากกระบวนการทดสอบระบบต่างๆยังไม่สมบูรณ์ทั้งระบบ ทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออก ซึ่งหลังการทดสอบระบบจนสมบูรณ์เป็นไปตามมาตรฐานสูงสุดแล้ว ทอท.จึงพร้อมเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศในวันที่ 16 กันยายนนี้
"การเปิดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ของสนามบินภูเก็ต เป็นการสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ การดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบถ้วน จึงเปิดให้บริการ แตกต่างจากเปิดอาคารผู้โดยสาร อาคาร2 ของสนามบินดอนเมือง เพราะเป็นเพียงการรีโนเวตเพื่อปรับปรุงสำหรับการรองรับผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศ"
นอกจากนี้ทอท.ยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการขยายการลงทุนในการพัฒนาระยะต่อไป เพื่อขยายการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 18 ล้านคนต่อปี(พัฒนาได้สูงสุด)ที่จะมีการขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ การขยายลานจอดอากาศยาน การปรับปรุงระบบถนนภายในท่าอากาศยาน และการก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์และอาคารสำนักงาน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 โดยในขณะนี้ได้ซื้อที่ดินของการเคหะแห่งชาติ ราว 50 ไร่ด้านนอกของสนามบิน เพื่อก่อสร้างบ้านพักให้พนักงาน และย้ายออกจากสนามบิน เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาสร้างลานจอดอากาศยานเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการพัฒนาตามแผนแม่บทสนามบินภูเก็ต ที่อยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียด เพื่อเตรียมนำเสนอบอร์ดทอท.พิจารณาในระยะต่อไป เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 1.20 หมื่นล้านบาท รวมทั้งต้องดูเรื่องปัญหาในเรื่องขอขวดในการเข้าเมืองด้วย ซึ่งทราบว่าภาครัฐมองเรื่องของโมโนเรลเพื่อเชื่อมการเดินทางระหว่างสนามบินภูเก็ตเข้าเมือง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,191 วันที่ 11 - 14 กันยายน พ.ศ. 2559