10 สัญลักษณ์วันคริสต์มาส ตั้งแต่ซานตาคลอสถึงการให้ของขวัญ

17 ธ.ค. 2568 | 12:59 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ธ.ค. 2568 | 12:59 น.

10 สัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลคริสต์มาส พร้อมอธิบายที่มาและความหมายที่ใช้กันทั่วโลก ตั้งแต่ซานตาคลอส ต้นคริสต์มาส ดาวคริสต์มาส ไปจนถึงธรรมเนียมการให้ของขวัญ

KEY

POINTS

  • สัญลักษณ์สำคัญของวันคริสต์มาสมีที่มาและความหมายที่เชื่อมโยงกับศาสนาคริสต์ เช่น ซานตาคลอสมีต้นแบบจากนักบุญนิโคลัส และการให้ของขวัญมาจากเรื่องราวของโหราจารย์ที่มอบของกำนัลแด่พระเยซู
  • สัญลักษณ์ที่มาจากพืชหลายชนิด เช่น ต้นคริสต์มาส พวงมาลัย และต้นฮอลลี่ มักใช้ใบไม้สีเขียวเพื่อสื่อถึงชีวิตนิรันดร์ และส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ผลสีแดงหรือหนาม เพื่อระลึกถึงพระเยซู
  • สัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น ดาวคริสต์มาสมาจากเรื่องเล่าการเดินทางของโหราจารย์ ถุงเท้ามาจากตำนานการให้ของขวัญของนักบุญนิโคลัส และระฆังใช้เป็นเครื่องหมายของการประกาศการประสูติของพระเยซู

วันคริสต์มาส (Christmas) เป็นวันเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู ซึ่งถือเป็นศาสดาสูงสุดในศาสนาคริสต์ ชาวคริสต์ทั่วโลกให้ความสำคัญกับวันนี้ เนื่องจากเชื่อว่าพระเยซูเป็นบุตรของพระเจ้า และมีทั้งความเป็นพระเจ้าและความเป็นมนุษย์ในพระองค์เดียว

วันคริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี คำว่า “Christmas” เป็นคำทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ ซึ่งมีรากมาจากภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maessse หมายถึง พิธีมิสซาเพื่อบูชาพระคริสต์ เนื่องจากการร่วมพิธีมิสซาถือเป็นประเพณีสำคัญในวันคริสต์มาส ส่วนวันที่พระเยซูประสูติจริงยังไม่ทราบแน่ชัด โดยนักประวัติศาสตร์สมัยใหม่คาดว่าอยู่ในช่วงราว 2 ปีก่อน ค.ศ. ถึง ค.ศ. 7

หนึ่งในสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของคริสต์มาสคือ “ซานตาคลอส” ชายร่างท้วม สวมชุดสีแดง มีหนวดเคราสีขาว เชื่อกันว่ามีต้นแบบมาจากนักบุญนิโคลัส บาทหลวงในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4 ซึ่งมีชื่อเสียงด้านความใจดีและการช่วยเหลือเด็ก ๆ ต่อมาชื่อของนักบุญนิโคลัสแพร่หลายในยุโรป โดยเฉพาะในเนเธอร์แลนด์ในชื่อ “ซินเตอร์คลาส” ก่อนจะถูกเรียกเพี้ยนในสหรัฐอเมริกาเป็น “ซานตาคลอส” และใช้กันแพร่หลายทั่วโลก

ถุงเท้าคริสต์มาส

มีที่มาจากตำนานที่เล่าว่านักบุญนิโคลัสเคยปีนปล่องไฟเพื่อนำเหรียญเงินไปมอบให้เด็กยากจน และเหรียญตกลงไปในถุงเท้าที่แขวนไว้หน้าเตาผิง จากเรื่องเล่านี้ เด็ก ๆ จึงนิยมแขวนถุงเท้าในคืนวันที่ 24 ธันวาคม หรือวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อรอรับของขวัญ

ต้นคริสต์มาส

เป็นอีกสัญลักษณ์สำคัญ เดิมนิยมใช้ต้นสนซึ่งเป็นพืชไม่ผลัดใบและมีสีเขียวตลอดปี ต่อมามีการใช้ต้นคริสต์มาสปลอมที่ทำจากพลาสติกเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ การตกแต่งต้นคริสต์มาสมักใช้ลูกบอล ดาว กล่องของขวัญขนาดเล็ก และไฟประดับ ตามความเชื่อทางศาสนา ต้นคริสต์มาสถูกเปรียบกับต้นไม้ในสวนเอเดน และสีเขียวของต้นไม้สื่อถึงชีวิตนิรันดร์

พวงมาลัยคริสต์มาส

นิยมแขวนไว้ที่หน้าประตูบ้าน ใบไม้สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต ส่วนโบว์สีแดงแสดงถึงความรื่นเริง รูปทรงวงกลมของพวงมาลัยถูกเชื่อมโยงกับมงกุฎหนามของพระเยซู ในยุคกลาง ชาวยุโรปยังมีความเชื่อว่าพวงมาลัยสีเขียวสามารถป้องกันพลังอันชั่วร้ายได้

ต้นฮอลลี่

เป็นไม้พุ่มที่มีใบแหลมและผลสีแดง ใบสีเขียวของต้นฮอลลี่ถูกมองว่าแทนชีวิตนิรันดร์ ขณะที่ผลสีแดงสื่อถึงเลือดของพระเยซู และใบที่มีลักษณะคล้ายหนามถูกเชื่อมโยงกับมงกุฎหนาม

ระฆังหรือกระดิ่งคริสต์มาส

เกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องการประกาศการประสูติของพระเยซู ตามตำนานเล่าว่ามีเสียงระฆังดังขึ้นในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อขจัดพลังความมืด ก่อนจะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลอง และนำไปประดับตกแต่งในการ์ดและต้นคริสต์มาส

ดาวคริสต์มาส

หรือที่เรียกว่า “Star of Bethlehem” มีที่มาจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับโหราจารย์ที่เห็นดาวพิเศษบนท้องฟ้าและเดินทางตามแสงดาวไปยังสถานที่ประสูติของพระเยซูที่เมืองเบธเลเฮม

ดอกไม้คริสต์มาส

หรือ Poinsettia มีตำนานจากเม็กซิโก เล่าถึงเด็กหญิงยากจนที่ไม่มีของขวัญถวายพระแม่มารี ก่อนที่เมล็ดพืชจะเจริญเติบโตเป็นดอกไม้สีแดงสด ดอกไม้ชนิดนี้จึงถูกใช้ประดับในโบสถ์และบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

ดอกกุหลาบคริสต์มาส (Helleborus niger)

เป็นพืชที่ออกดอกในฤดูหนาว พบในยุโรปกลาง ตามตำนานเล่าว่า ดอกไม้ชนิดนี้ปรากฏขึ้นใกล้สถานที่ประสูติของพระเยซู และถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความบริสุทธิ์

การให้ของขวัญในวันคริสต์มาส

มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของโหราจารย์สามท่านจากตะวันออกที่ถวายทองคำ กำยาน และมดยอบแด่พระเยซู ประเพณีการแลกเปลี่ยนของขวัญและการ์ดอวยพรจึงแพร่หลายในช่วงเทศกาลนี้ ทั้งในหมู่ชาวคริสต์และผู้ที่ร่วมเฉลิมฉลองในเชิงประเพณี