เปิดแทง‘หวยหุ้น’ทั้งโลก สมาคมบล.เตือนมีโอกาสเสียมากกว่าได้/ร้องหาคนคุม

24 ส.ค. 2559 | 00:00 น.
หวยหุ้นฮอต ได้รับความนิยมจากนักพนัน เหตุมีให้ได้ลุ้นหลายรอบ สามารถเล่นได้เกือบทุกวัน ดัชนี “นิกเกอิ” ยอดฮิต นายกสมาคมบล. รับมีการเล่นจริงแต่คงไม่มีหน่วยงานใดกำกับดูแลได้ แนะลงทุนในหุ้นมีโอกาสมากกว่า ขณะที่นักเล่นระบุผลตอบแทนคุ้มค่ากับเงินที่เสีย

จากกรณีมีการแชร์ข้อมูลในเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือโซเชียล มีเดีย ว่าการเล่นหวยหุ้นได้รับความนิยม อีกทั้งมีการใช้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกมาอ้างอิงทำให้เล่นได้หลายรอบในแต่ละวันนั้น

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กล่าวให้ความเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มีการนำดัชนีตอนปิดตลาดของหุ้นไทยมาทำเป็นหวยอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีผู้แทงอยู่มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากพฤติกรรมของประชาชนไทยมีความชื่นชอบในการเสี่ยงโชคกับการเล่นหวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อรวมกับที่ตลาดหุ้นมีการเปิดทำการแทบทุกวันทำให้ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่ต้องการให้นำดัชนีตอนปิดตลาดไปใช้ในการที่เป็นการพนันในลักษณะดังกล่าวเท่าใดนัก

ทั้งนี้ในความเป็นจริงแล้วอยากให้ประชาชนให้ความสนใจกับการเข้ามาลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนในตลาดหุ้นมากกว่า เชื่อว่าจะเป็นการดีกว่าการนำดัชนีหุ้นไปไปแทงเป็นหวยหุ้น เพราะโอกาสในการถูกรางวัลนั้นน้อยมาก เนื่องจากดัชนีของตลาดหุ้นไม่มีพื้นฐานอะไรเลย โดยสามารถเป็นตัวเลขอะไรก็ได้ ไม่มีวิธีคิด ไม่มีวิธีการคำนวณหรือเกร็งตัวเลขโอกาสถูกมีน้อยมาก

"ดัชนีหุ้นเกิดจากราคาหุ้น 500 กว่าตัวในตลาดที่นำมาใช้ในการคำนวณดัชนี ไม่มีใครสามารถควบคุมให้เป็นตัวเลขอะไรก็ได้ มีหลักในการคำนวณแต่ไม่มีทฤษฎีว่าจะเป็นตัวเลขเท่าไหร่ ผู้เล่นมีโอกาสเสียเงินสูงมาก เสียแล้วก็เสียเลย ไม่มีโอกาสได้เงินกลับคืนมา หากจะเล่นก็ไม่อยากให้แทงกันทีละมากๆ เล่นแค่พอสนุกได้ลุ้นก็น่าจะพอแล้ว" นายกสมาคมบล. กล่าวและว่า

ปัจจุบันไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปกำกับดูแลไม่ให้มีการแทงหวยหุ้น โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะไปสั่งห้ามก็คงไม่ได้ สิ่งที่สำคัญก็ คือ การให้ความรู้กับประชาชนว่าความเสี่ยงในการเล่นนั้นมีสูง โอกาสในการเสียเงินไปโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมามีมาก และที่สำคัญเสียเงินแล้วก็คือเสียเลย แม้ว่าจะสามารถแทงได้หลายรอบก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแทงถูกและได้เงินคืนกลับมาได้ทันทีทันใด หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เล่นกัน

แหล่งข่าวซึ่งเป็นผู้แทงหวยหุ้นในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ระบุว่า ดัชนีหุ้นที่ใช้เล่นกันนั้นเป็นดัชนีของตลาดนิเคอิ (NIKKEI) ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถแทงได้ 2 เวลา ได้แก่รอบ 09.30 น. และ 13 .00 น. โดยลักษณะของการออกรางวัลจะมีในส่วนของเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งจะใช้ตัวเลขหลังจุดทศนิยมตอนปิดตลาดของดัชนีที่เคลื่อนไหวในแต่ละช่วงไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวบวกหรือลบแต่ละช่วงเวลามาเป็นตัวกำหนดว่าผู้ใดที่จะแทงถูกบ้าง อีกทั้งยังมี 3 ตัวบน ซึ่งจะใช้ตัวเลขหน้าจุดทศนิยมของดัชนีโดยรวมของตลาดเป็นตัวกำหนด โดยสามารถแทงได้ทั้งเลขตรง และเลขโต๊ด

สำหรับวิธีการจ่ายเงินรางวัลนั้น จะมีลักษณะเช่นเดียวกับหวยใต้ดิน ประกอบไปด้วย หากแทงถูกเลขท้าย 2 ตัวจะได้รับเงินรางวัล 1 บาทต่อ 60 บาท ส่วนเลข 3 ตัวบนจะได้รับเงินรางวัล 1 บาทต่อ 400 บาท ขณะที่หากถูกเลขโต๊ดจะได้ 1 บาทต่อ 100 บาท ซึ่งลักษณะในการแทงจะใช้วิธีเขียนตัวเลขใส่กระดาษ โดยในแต่ละช่วงเวลาจะมีพนักงานของเจ้ามือหวยมารับโพยจากผู้แทงด้วยตัวเอง ซึ่งการดูผลรางวัลก็จะดูจากโทรศัพท์มือถือที่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะเปิดใช้บริการอินเตอร์เน็ตอยู่แล้วเป็นหลัก

สาเหตุที่หวยหุ้นได้รับความนิยม ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากผลตอบแทนที่ได้ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่มองว่าคุ้มค่ากับความเสี่ยงของจำนวนเงินที่ลงทุนไป อีกทั้งหากแทงไม่ถูกในรอบเช้าก็ยังมีโอกาสได้แก้ตัวใหม่ในรอบบ่าย โดยตัวเลขที่นำไปใช้แทงนั้นก็จะใช้วิธีดูจากหนังสือพิมพ์ และคาดคะเนตัวเลขดัชนีช่วงปิดตลาดเอา ไม่มีหลักการใดๆ ทั้งนั้น

ขณะที่ผู้แทงหวยหุ้นในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ระบุว่า ผู้แทงหวยหุ้นส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเล่นหวยใต้ดิน และสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ในช่วงเวลาที่หวยรัฐบาลยังไม่ออกก็จะมาเสี่ยงโชคกับหวยหุ้น โดยปัจจัยที่ทำให้ได้ความนิยมก็เพราะสามารถแทงได้ทุกวัน วันละหลายครั้ง แล้วแต่ว่าเจ้ามือจะใช้ตลาดหุ้นของประเทศใดเป็นตัวกำหนดในการออกรางวัล อีกทั้งผลตอบแทนที่ได้รับก็มีมูลค่าที่ค่อนสูงไม่ต่างจากการแทงหวยใต้ดิน โดยในจังหวัดขอนแก่นเท่าที่ทราบผู้แทง 1 บาทจะได้รับเงินรางวัล 70 บาทในกรณีที่ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ส่วนพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีจะได้ 1 บาทต่อ 80 บาทเป็นรางวัลตอบแทน

ด้านเจ้ามือรับแทงหวยหุ้นรายเล็กในพื้นที่จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ในแต่ละวันจะมีผู้แทงโดยรวมเข้ามามูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทในแต่ละรอบเช้ากับบ่าย ขณะที่ยังมีเจ้ามือหวยหุ้นเจ้าอื่นอีกที่รับแทง ซึ่งมูลค่าในแต่ละรอบอาจจะมากกว่า โดยผู้แทงแต่ละรายจะไม่เล่นในมูลค่าที่สูงเหมือนกับเล่นหวยใต้ดิน เพราะหวยหุ้นมีให้เล่นทุกวันวันละ 2 รอบ ส่วนดัชนีที่เลือกใช้ในการออกรางวัลจะเป็นตลาดนิกเกอิ ซึ่งเปิดให้ผู้แทงหวยหุ้นเล่นกันมาแล้วกว่า 20 ปี เพราะดัชนีมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก

วิธีการชำระเงินนั้น ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการจ่ายเงินสดในแต่ละรอบ ยกเว้นผู้ที่รับแทงและนำมาส่งต่อให้กับเจ้ามืออีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะชำระเงินกันเป็นรายสัปดาห์ โดยอัตราการจ่ายเงินรางวัลนั้น หากถูก 2 ตัวล่างจะได้รับ 1 บาทต่อ 65 บาท ส่วนเลขท้าย 3 ตัวบนจะได้ 1 บาทต่อ 550 บาท ขณะที่หากเป็นเลขโต๊ดจะได้ 1 บาทต่อ 100 บาท โดยการจ่ายเงินรางวัลของแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันตามแต่เจ้ามือจะเป็นผู้กำหนด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,185 วันที่ 21 - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559