The Journey Of Star Trek Part 1: ปฐมบทสู่ตำนานการเดินทางท่องอวกาศ !!

03 ส.ค. 2559 | 13:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

สวัสดีครับ ในตำนานของวงการภาพยนต์และโทรทัศน์ สื่อความบันเทิงที่เรียกว่าเป็นอมตะคงจะมีอยู่ไม่มากมายนัก ที่ยังสามารถอยู่ครองใจผู้ชมมาได้ถึงในปัจจุบันและ หนึ่งในนั้นก็คือ Star Trek ซีรีส์และภาพยนต์ชุดแนวไซ-ไฟ อวกาศ ที่มีเหล่าเเฟนอยู่ทั่วโลก จนเรียกตนเองว่า Trekkers และ Trekkies วันนี้ 9Slow จะพาผู้อ่านไปพบเรื่องราวบนเเผ่นฟิล์มของ Star Trek เตรียมตัวกับเรื่องราวการผจญภัยในห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่ เราจะวาร์ปกันแล้ว จับที่นั่งของท่านให้ดีครับ




star-trek-tv-show-cbs-2017

" อวกาศ พรมแดนด่านสุดท้าย...


...นี่คือการเดินทางของยานอวกาศ เอนเทอร์ไพรซ์ ภาระกิจของยานคือ การสำรวจโลกใหม่...


...ค้นหารูปแบบชีวิตใหม่ และอารยธรรมใหม่ ท่องไปอย่างกล้าหาญ สู่ที่ซึ่งไม่มีใครไปมาก่อน !! "







[caption id="attachment_68928" align="aligncenter" width="1000"] www.icollector.com www.icollector.com[/caption]

ที่กล่าวมาข้างต้นคือสโลแกนของซีรีส์การเดินทางข้ามจักรวาล Star Trek ที่ฉายในปี 1966 สร้างสรรค์พล็อตเรื่องทั้งหมดโดย ยีน ร็อดเดนเบอร์รี ผู้อำนวยการสร้างและนักเขียนบทภาพยนต์  มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจาก Star Wars ที่เกิดหลังกว่า 10 ปี แต่ความโดดเด่นของ Star Trek จะไม่ได้เน้นที่เรื่องแฟนตาซีมากนัก ซึ่งจุดเด่นของ  Star Trek นอกจากจะเป็นซีรีส์แนววิทยาศาสตร์แล้ว ตัวละครในซีรีส์ยังเป็นการรวมกันของหลากหลายเชื้อชาติ เพื่อเป็นการสื่อว่าในอนาคต เส้นแบ่งทางเชื้อชาตินั้นไม่มีอีกแล้ว ทุกคนร่วมมือกันเพื่อทำให้ทุกๆ สิ่งดีขึ้น บทและเนื้อเรื่องยังคงเเฝงปรัชญาได้อย่างล้ำลึก และด้วยความล้ำลึกนี่เอง Star Trek จึงต้องผ่านอุปสรรคมากมายในช่วงเริ่มต้น ปัญหามีทั้งเรทติ้งความนิยมที่ไม่สู้ดีนักและการที่รายการดูเหมือนจะเข้าถึงยาก แต่ทว่า Star Trek ก็ยังคงอยู่รอดมาได้ด้วยพลังของเหล่า เทรคกี้ ที่เป็น เเฟนพันธุ์แท้ ของภาพยนต์นี่เอง



ลูกเรือ StarFleet สมาชิกของยาน USS Enterprise NCC-1701


Star Trek TV Series starring Leonard Nimoy, William Shatner, DeForest Kelley, Nichelle Nichols, James Doohan, Eddie Paskey, George Takei, Walter Koenig, Majel Barrett and Grace Lee Whitney - dvdbash.com

กัปตันเจมส์ ไทบีเรียส เคิร์ก (วิลเลี่ยม แชทเนอร์) กัปตันของยาน USS เป็นผู้นำให้การปฎิบัติภารกิจต่างๆ ของลูกเรือ เอนเทอร์ไพรซ์ กัปตัน เคิร์ก ได้รับสมญานามว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นวีรบุรุษแห่งยุคสมัย

leonard-nimoy-spock

สป็อค (เลิร์ดนาร์ด นิมอย) นักวิทยาศาสตร์และรองกัปตันชาวดาววัลเเคน ดาวที่มีอารยธรรมและเทคโนโลยีควบคู่กันไป ชาวดาววัลแคนใช้ชีวิตด้วยตรรกะและเหตุผล จึงทำให้ สป็อค ดูเหมือนจะเป็นคนที่เย็นชาแต่ทว่าความกล้าหาญและความรู้ความสามารถของเขาก็เป็นกำลังหลักสำคัญของยาน

5580455913_2a55b449a0

ดร. เลินนาร์ด โบนส์ แมคคอย (เดอฟอเรนซ์ เคลลี่) หมอประจำยาน เอนเทอร์ไพรซ์ ผู้มีประโยคติดปากว่า "เขาตายแล้ว" และ "ผมเป็นหมอนะไม่ใช่...(อะไรก็ว่าไป)" เเพทย์หมอฝีมือดีช่างเสียดสีประจำยาน

Scotty1

มอนต์โกเมอรี่ สก็อตตี้ สก็อต (เจมส์ ดูฮาน) วิศวกรประจำยาน ผู้ที่ได้ถูกขนานนามว่าเป็น ช่างเครื่องที่เก่งที่สุด เขาเป็นคนคิดสมการทฤษฎีการวาร์ปที่ก้าวหน้า

eyccvtfe1pzvjs4pjr9y

อูฮูร่า (นิเชลล์ นิโคลส์) เจ้าหน้าที่สื่อสารประจำยาน เธอมีความรู้ความสามารถที่เข้าใจภาษาต่างดาวมากมาย


sulu

ซูลู (จอร์จ ทาเคอิ) นักบินประจำยานผู้มากด้วยประสบการณ์


amoktimehd082-186650

พาเวล อังเดรวิช เชคอฟ (วอลเทอร์ โคนิก) ต้นหนของยาน เอนเทอร์ไพรซ์







The Journey Of Star Trek

ในอนาคต หลัง ค.ศ. 2063 ไปแล้ว เมื่อมนุษย์สามารถพัฒนาเทคโนโลยี สร้างยานอวกาศที่สามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสง เรียกว่า เทคโนโลยีวาร์ป และมี การติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวเป็นครั้งแรก กับชาววัลแคน มนุษย์ต่างดาวที่มีตรรกะเหนืออารมณ์ความรู้สึก ส่งผลให้เทคโนโลยีของมนุษย์ได้พัฒนาขึ้นไปอีก จนได้พบปะติดต่อกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวอื่นๆ อีกมากมาย

1397324395

ต่อมามีการจัดตั้ง สหพันธ์ดวงดาว เพื่อความร่วมมือในการรักษาสันติภาพ อีกทั้งเกิดโครงการพิเศษ การสำรวจโลกใหม่, ค้นหารูปแบบชีวิตใหม่ และอารยธรรมใหม่ มีหน่วยงานรับผิดชอบภารกิจชื่อว่า StarFleet โดยยานอวกาศหลักสำคัญที่ใช้ในการภารกิจชื่อว่ายาน เอนเทอร์ไพรซ์

frisco_bgd

แต่ก็มีชาวต่างดาวบางกลุ่มไม่ยินดีในการรวมกลุ่มร่วมด้วยกับสมพันธ์ดวงดาว ทั้งยังคอยต่อต้านต้องการแยกตัวเป็นอิสระ เช่น พวกเผ่าคลิงออน, พวกบอร์ก และ โรมูลัน ฯลฯ




STAR TREK เป็นภาพยนต์ทางโทรทัศน์ทั้งสิ้น 79 ตอน ฉายตั้งแต่ปี 1966-1969 ฉายตอนสุดท้ายในวันที่ 2 กันยายน 1969 แม้ว่าจะปิดตัวลงไปในจอโทรทัศน์แต่ว่านั้นคือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์บนเเผ่นฟิล์ม

Star Trek : The Motion Picture (1979)


STTMP


เรื่องราวเกิดขึ้น 3 ปีหลังจากเหตุการณ์ในซีรีส์ทางโทรทัศน์ เมื่อเกิดกลุ่มก้อนพลังงานสีฟ้า กำลังพุ่งตรงมายังโลก วัตถุนี่มีสนามพลังกินขอบเขตที่ใหญ่มาก ราวกับเป็นอีกแกแลคซี่ ไม่ว่าจะผ่านไปที่ไหน ที่นั่นก็จะถูกทำลายดูดกลืนให้สลายไปจนสิ้น ดังนั้นทางโลกจึงเกรงกลัวว่าถ้ามันตรงมาทางนี้แล้วโลกก็เป็นสลายไปด้วย เป็นการกลับมาช่วยจักรวาลของกัปตันเจมส์ ที เคิร์ก ผู้บัญชาการยานเอนเทอร์ไพรซ์ และ เหล่าลูกยานประจำยาน คุณหมอเลนเนิร์ด โบนส์ แม็กคอย, ชาววัลแคน สป็อค, สก็อตตี้,  ซูลู, พาวเวลล์ เชคอฟ และ อูฮูร่า






โปรเจคของ Star Trek : The Motion Picture เริ่มต้นในปี 1978 โดยผู้ริเริ่มก็ไม่ใช่ใครอื่นคือ ยีน ร็อดเดนเบอร์รี นั้นเอง ที่เขายังคงเชื่อมันในศักยภาพของ Star Trek ที่จะไปต่อได้บนจอภาพยนต์ ซึ่งทุนสร้างคือ $15 ล้าน แต่ด้วยปัญหาความล้าช้าในการถ่ายทำทำให้ทุนสร้างของหนังดีดขึ้นไปสูงถึง $46 ล้าน เมื่อได้ลงโรงฉายแล้วก็สามารถสร้างปรากฎกาณ์รายได้เปิดตัวไป $11 ล้าน และปิดตัวเลขไปได้ $86 ล้าน แม้ว่าจุดเริ่มต้นของการเดินทางของลูกเรือ เอนเทอร์ไพรซ์ บนจอเงินจะดูสดใส แต่มันยังไม่ได้เป็นที่พอใจของผู้สร้างเมื่อเทียบกับทุนสร้างและงบโฆษณาที่ได้ลงไป ทั้งหมดเหมือนจะเป็นความผิดพลาดของตัว ยีน ร็อดเดนเบอร์รี เองทำให้ให้ภาคต่อมาไม่มีชื่อของเขาเกี่ยวข้องอีกต่อไป


sttmp (1)






 Star Trek : The Wrath Of Khan (1982)


star-trek-2-the-wrath-of-khan.13096


ยานเอนเทอร์ไพรซ์ต้องมาเผชิญหน้ากับ "ข่าน" (ริคาโด้ มอนเทบัน) เขาคือ มนุษย์ที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมให้แข็งแกร่งกว่าคนปกติทั้งพละกำลังและสติปัญญา จากศตวรรษที่ 20 ข่านและพวกอยู่ในภาวะจำศีลยาวนาน ทั้งหมด 72 คน ในยานลี้ลับล่องลอยในอวกาศ จนยานเอนเทอร์ไพรซ์บังเอิญมาพบเข้า จึงช่วยปลุก ข่าน ตื่นขึ้นอีกครั้ง แต่ข่านดันคิดยึดยานเอนเทอร์ไพรซ์ แต่แล้วข่านก็พลาดท่า โดนกัปตันเคิร์กจัดการในที่สุด จนถูกเคิร์กตัดสินปล่อยเกาะทิ้งที่ดาวที่มีสภาพเลวร้ายแต่ทว่า ข่าน กลับหลบหนีออกมาได้และด้วยความแค้นกัปตันเคิร์ก ก็เลยคิดจะตามล้างแค้นยานเอนเทอร์ไพรซ์ และภาคนี้ยังสะเทือนใจเหล่าบรรดาแทร็คกี้ทั่วโลกจากการขากไปของตัวละครสำคัญอย่าง สป็อค !!






คราวนี้ตำแหน่งโปรดิวเซอร์เป็นของ ฮาร์ฟ เบนเน็ต ที่ได้รับมอบหมายจากพาราเมาต์ว่าเป็นไปได้มั้ยที่เขาจะใช้ทุนสร้างเพียง $11 ล้านได้หรือไม่ ซึ่ง เบนเน็ต ตอนนั้นเขาเป็นโปรดิวเซอร์รายการทางทีวีอยู่ ก็เรียกว่าเข้าทางเพราะปกติเขาต้องทำงานด้วยงบที่จำกัดอยู่แล้ว ซึ่งทุกอย่างของ Star Trek : The Wrath Of Khan ก็ถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นฉากที่เคยสร้างเอาไว้ในภาคแรกถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งโดยมีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย หรือแม้แต่ฟุตเตจบางฉากก็เป็นการใช้จากของเก่า The Wrath Of Khan ทำรายได้ไปทั้งหมด $78 ล้าน ถึงแม้จะน้อยกว่าภาคแรกแต่ด้วยคำวิจารณ์ที่ออกมาในแง่ดีและจากทุนสร้างเพียง $11 ล้าน จึงถือว่าภาคนี้กลายเป็นความสำเร็จที่แท้จริง


gallery_movies-star-trek-wrath-of-khan






Star Trek III : The Search For Spock (1984)


tumblr_nxk1hyFOeW1tqyfuro1_1280


คราวนี้ กัปตันเคิร์ก ต้องนำลูกทีมทั้งหมดกลับไปยังดาวที่เรียกว่า เจเนซีส เป็นโครงการชุบชีวิตดาวที่ตายไปแล้ว เพื่อนำวิญญาณของ สป็อค ไปที่นั้นเพื่อนำกลับเขาร่างที่เกิดใหม่แต่ไร้สติสัมปะชัญญะ คราวนี้เหล่าลูกยานเอนเทอร์ไพรซ์ ต้องขโมยยานฝ่าฝืนคำสั่งของ สตาร์ฟีท อีกทั้งเรื่องวุ่นวายอีกมากทั้ง พฤติกรรมที่แปลกไปของ หมอ แมคคอย และยังต้องต่อสู้กับ นายพลครูจก์ ชาวดาวคลิงออน ที่หวังต้องการาเทคโนโลยีของ เจเนซีส มาสร้างเป็นอาวุธ






หลังจากเรื่องราวในภาคที่แล้ว การตายของสป็อค ทำให้ภาคนี้การนำตัวละครตัวนี้กลับมาจึงกลายเป็นภารกิจหลัก ยังได้ ฮาร์ฟ เบนเน็ต มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์เหมือนเดิม และหน้าที่ผู้กำกับให้ เลิร์ดนาร์ด นิมอย นักแสดงที่เล่นเป็น สป็อค อีกด้วย การนำ ชาวคลิงออนมาเป็นตัวร้ายในภาคนี้ก็เป็นไอเดียของ นิมอยที่เกิดจากความชื่นชอบของตัวเขาเองและเนื่องจากเนื้อหาส่วนใหญ่คือการตามหาตัว สป็อค ตัว เลิร์ดนาร์ด นิมอย เองจึงมีเวลามาทำหน้าที่ผู้กำกับมากเพราะคิวการแสดงเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้น  ซึ่ง นิมอยก็สามารถทำได้ดีทั้งสองหน้าที่ Star Trek III : The Search For Spock ปิดรายได้ไปทั้งหมด $76 ล้าน จากทุนสร้าง $17ล้าน ก็นับว่าไม่ขี้เหร่เท่าไหร่


Star-Trek-3-Kirk






Star Trek IV : The Voyage Home (1986)


Star-Trek-IV-The-Voyage-Home-1986-Hollywood-Movie-Watch-Online1

เหตุการณ์หลังจากภาคที่แล้ว 3 เดือน เหล่าลูกเรื่อเอนเทอร์ไพรซ์ต้องย้อนเวลาไปสู่อดีตเพื่อตามหา ปลาวาฬหลังค่อม เพราะในโลกยุคอนาคตนั้น พวกมันได้สูญพันธุ์ไปจากโลกหมดแล้ว และการรุกรานของยานลึกลับรูปทรงกระบอก มาสำรวจสภาพดวงดาว โดยใช้สัมผัสกับคลื่นเสียงของปลาวาฬ หากดาวไหนไม่ผ่านการทดสอบนี้ ยานลึกลับจะทำลายดาวดวงนั้น เพื่อดาวจะได้เริ่มต้นปรับสภาพใหม่ ทำให้ทีมเอนเทอร์ไพร์ซของกัปตันเคิร์ก ต้องออกปฏิบัติการกอบกู้โลกด้วยการวิธีการย้อนกลับไปปี 1986 เพื่อนำปลาวาฬหนึ่งคู่กลับมายังโลกปัจจุบันให้ได้




Star Trek IV : The Voyage Home ถือเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จอีกภาคหนึ่งก็ว่าได้ เพราะรายได้ทั้งหมดปิดตัวไปที่ $109 ล้าน ซึ่งเป็นเรื่องแรกของ Star Trek ที่มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับการย้อนเวลามายังช่วงปัจจุบันในตอนนั้นคือ 1986 เพื่อตามหาสิ่งที่สูญหายไปแล้วคือ ปลาวาฬหลังค่อม เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างข้างถึงง่ายและให้ความบันเทิงได้อย่างดี อีกทั้งยังปลุกกระแสให้ผู้ชมเห็นความสำคัญของธรรมชาติอีกด้วย ยังสามารถทำให้แฟนและไม่ใช่เเฟนของหนัง Star Trek สนุกกับมันไปได้ เรื่องราวที่น่าสนใจและตัวละครอย่าง สป็อค ที่ต้องไปอยู่ในยุค 80 นั้นก็สร้างไดอะล็อกที่เหล่าแฟนๆ ดูแล้วจะต้องอมยิ้ม

Star-Trek-4-in-San-Francisco



Star Trek V : The Final Frontier (1989)


STREK_DVDIRET_SP_ES109965IN


เนื้อเรื่องชองภาคนี้ต่อจากภาคก่อนไม่นานนัก เหล่าลูกเรือเอนเทอร์ไพรซ์ ไม่มีเวลาได้หยุดพัก พวกเขาได้พบกับ ไซบอก พี่ชายต่างมารดาของ สป็อค เขาได้จับฑูตจากดวงดาวต่างๆ และบังคับเอายานของ กัปตันเคิร์ก เพื่อที่จะได้เดินทางไปทั้ง ดาวชาร์การี อันเป็นที่ๆ ไม่มีใครเคยเข้าไป มีตำนานเล่าขานกันว่า ณ ชาการ์รี นั้น คือสถานที่อันเป็นที่อยู่ของ จิตจักรวาลและความรู้แจ้งสูงสุด หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ "พระเจ้า" นอกจากการเดินทางเพื่อท้ายทายความเชื่อแล้ว ทีมยานเอนเทอร์ไพรซ์ยังจะต้องเจอกับ พวกคลิงออนที่ตามมาด้วยอีกด้วย






จากภาคก่อนที่ได้นักแสดง เลิร์ดนาร์ด นิมอย มาเป็นผู้กำกับ คราวนี้ก็ถึงคราวของเพื่อนนักแสดงอย่าง วิลเลี่ยม แชทเนอร์ มาเป็นผู้กำกับบ้าง โดยเนื้อเรื่องของ แชทเนอร์ จะเน้นไปที่เรื่องของศาสนาซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมันไม่ใช่ผลดีเลยสำหรับ STAR TREK เพราะนอกจากกระแสจะไม่ดีและไม่เป็นที่ถูกใจของบรรดาเเฟนๆ และนักวิจารณ์แล้ว หนังยังทำรายได้ไปเพียง $52 ล้าน ที่เมื่อเทียบกับทุนสร้าง $27 ล้านแล้ว ก็ถือว่าน่าผิดหวัง โดยเฉพาะบรรดาเหล่า เทรคกี้ได้บอกว่า Star Trek V : The Final Frontier มันคือ ภาคที่ห่วยที่สุด ทั้งหมดนี้กลายเป็นว่า วิลเลียม แชทเนอร์ กลายเป็นคนปิดตำนานหนังชุดนี้ไปเสียแล้ว


Star-Trek-The-Final-Frontier-2






 Star Trek VI : The Undiscovered Country (1991)
MPW-76749


สันติภาพกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อ กอร์คอน ราชาแห่งเผ่าพันธุ์คลิงออน ซึ่งเป็นคู่แค้นกับสหพันธ์ดวงดาวมาอย่างยาวนาน ต้องการจะเซ็นสัญญาเพื่อสงบศึก ทางสหพันธ์จึงมีมติส่ง กัปตันเคิร์ก ที่คอยสู้รบกับคลิงออนมาตลอดไปต้อนรับแสดงความเป็นมิตรและคอยคุ้มกันการเดินทางของคณะประมุข กอร์คอน ไปสู่งานประชุมสันติภาพแต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อจู่ๆ ยานอวกาศของ กอร์คอน ถูกยิง และมีมือสังหารในชุดอวกาศเข้าทำการลอบสังหาร ต่อหน้าต่อตายานเอนเทอร์ไพร์ซ  และใส่ความว่า กัปตันเคิร์ก เป็นคนสั่งการ เขาจึงต้องพิสูจน์ว่าตนเองบริสุทธิ์ก่อนที่จะเกิดสงครามขึ้น






หลังจากการเดินทางอันยาวนานของลูกเรือ เอนเทอร์ไพรซ์ Star Trek VI : The Undiscovered Country ถือเป็นภาพยนต์ลำดับสุดท้ายที่จะได้เห็นนักแสดงยุคบุกเบิกมาแสดงอีก นับเป็นเรื่องน่าใจหายแต่หากจะนับเวลาที่ผ่านมากว่า 25 ปี ภาคนี้ก็นับเป็นภาคที่อะไรหลายๆ อย่างสิ้นสุดลง ไม่ว่าจะเป็นการที่ ฮาร์ฟ เบนเน็ต ถอนตัวหลังจากเป็นโปรดิวเซอร์ให้ภาพยนต์ชุดนี้มานาน และด้วยความที่หนังใส่ประเด็นการเมืองเข้าไปให้เข้ากับสถานการณ์ในตอนนั้นกลับทำให้หนังไม่ได้เป็นที่จดจำให้ฐานะ ภาพยนต์ปิดฉากตำนานชุดเดิม และ ยีน ร็อดเดนเบอรี่ ก็เสียชีวิตก่อนที่ภาพยนต์จะเข้าฉาย หนังปิดตัวไปที่รายได้ $75 ล้านจากทุนสร้าง $27 ล้าน แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วความสำเร็จในครั้งนี้ก็ยังน้อยนิดอยู่ดี


star-trek-VI-the-undiscovered-Country-19-4-500x319






บทสรุปสุดท้ายของตำนาน Star Trek ฉบับดั้งเดิมได้จบลงตามกาลเวลา แต่ทว่าตำนาน Trek ก็หาได้จบเพียงเท่านี้ หลังจากปลดประจำการชุด กัปตันเคิร์ก ไปแล้ว เหล่าเจ้าหน้าที่ สตาร์ฟีท ลูกเรือยานเอนเทอร์ไพรซ์ ชุดถัดไปก็เตรียมสานต่อรับหน้าที่ท่องอวกาศอันกว้างใหญ่ต่อไป ติดตามได้ให้ The Journey Of Star Trek Part 2


ที่มารูปภาพจาก screenrant และ IMDB