โปรตุเกสอาจไม่ใช่ประเทศลำดับต้น ๆ ที่โลกนึกถึงถ้าจะต้องเลือกไปค้าและลงทุน ณ เวลานี้ แต่สำหรับประเทศไทย เป็นจังหวะที่น่าสนใจ ต้นเดือนกรกฎาคม ศกนี้ กรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ชวนไปสำรวจโอกาสในโปรตุเกสด้วยกัน เพราะกำลังจะมีการหารือ 2 ฝ่ายที่เรียกว่า การประชุม Political Dialogue ไทย-โปรตุเกส ครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ที่กรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส ไทยอยากผลักดันเรื่องอะไรกับโปรตุเกส เวทีนี้คือโอกาส
มาดู 10 เหตุผลว่าทำไมธุรกิจไทยควรต้องซูมอินเพื่อเสาะหาโอกาสในตลาดโปรตุเกส
1. ความสัมพันธ์ที่ยาวนาน โปรตุเกสเป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่ติดต่อกับไทย จนถึงปีนี้ รู้จักและสานสัมพันธ์กันมา 505 ปีแล้ว
2. ขนาดตลาดและอำนาจผู้บริโภค โปรตุเกสมีประชากรประมาณ 10 ล้านคน GDP ประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประชาชนมีรายได้ต่อปีถึง 2.7 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯหรือเกือบล้านบาท นับว่า ประชาชนมีเงินในกระเป๋า หากเศรษฐกิจเข้าที่ สินค้าดีน่าสนใจ ก็พร้อมจ่าย
3. อีกหนึ่งประตูสู่อียูและประเทศที่พูดโปรตุเกส นอกจากจะชูตนเองเป็นประตูสู่ประชากรอียูกว่า 500 ล้านคนแล้ว โปรตุเกสยังโฆษณาว่าเป็นประเทศยุโรปที่ใกล้สหรัฐอเมริกาและแคนาดามากที่สุดโดยทางเรือ อยู่ในลำดับที่ 15 ของโลกในด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคม และเข้าถึงประเทศที่ใช้ภาษาโปรตุเกสที่มีประชากรกว่า 250 ล้านคน ซึ่งรวมถึงบราซิล โมซัมบิก แองโกลา
4. เศรษฐกิจยังไม่ซบเซาหนักเมื่อเทียบกับหลายประเทศในยุโรป โปรตุเกสมีแนวโน้มเติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซน ในปี 2560 คาดว่าจะเติบโต 1% ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย การใช้นโยบายการคลังที่ไม่รัดเข็มขัดจนเกินไปช่วยกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่นิยมไปพักผ่อนตามเมืองตากอากาศทั่วโปรตุเกส เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวโปรตุเกสทะลุ 10 ล้านคนเป็นครั้งแรก ส่งผลให้โรงแรมในโปรตุเกสมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 13% แรงงานโปรตุเกสก็มีการศึกษาและมีทักษะ ขณะที่มีค่าแรงต่ำ
5. อสังหาริมทรัพย์ในโปรตุเกสกำลังมีราคาถูก ภาวะเศรษฐกิจยุโรปซบเซาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของโปรตุเกสได้รับผลกระทบอย่างหนัก ราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลดลงมากจนจัดได้ว่าถูกที่สุดในยุโรป ทั้งราคาบ้านพร้อมที่ดินและราคาพื้นที่ต่อตารางเมตร อย่างเช่น บ้านที่ราคาแพงที่สุดอยู่ที่เมือง Algarve เมืองท่องเที่ยวสำคัญทางตอนใต้ใกล้กับสเปน ราคาเฉลี่ยเท่ากับ 1,287 ยูโร ต่อตารางเมตร หรือประมาณกว่า 5 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ส่วนที่กรุงลิสบอน ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร เท่ากับ 1,047 ยูโร หรือกว่า 4 หมื่นบาทเท่านั้น เทียบกับราคาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ นับว่าถูกมาก หากมีโอกาสและสนใจมีที่พักตากอากาศในโปรตุเกส ก็ควรรีบไปจับจอง
6. มีตัวอย่างธุรกิจไทยที่เข้าไปบุกโปรตุเกสแล้ว กลุ่มไทยยูเนี่ยนได้เข้าไปทำธุรกิจผลิตปลากระป๋อง และกลุ่มไมเนอร์ ได้ซื้อกิจการโรงแรมกลุ่ม Trivoli ถึง 12 แห่งในโปรตุเกส
7. รัฐบาลโปรตุเกสชุดปัจจุบันให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ มีหน่วยงานเทียบเท่า BOI ของบ้านเราที่เรียกว่า AICEP คอยส่งเสริมการลงทุน และโปรตุเกสได้นำมาตรการ Golden Visa กลับมาใช้อีกครั้ง โดยจะออกวีซ่าระยะยาว 5 ปี แก่นักลงทุนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าตั้งแต่ 5 แสนยูโร หรือประมาณ 20 ล้านบาท หรือผู้ที่ลงทุนทำธุรกิจในโปรตุเกสมูลค่าตั้งแต่ 1 ล้านยูโรเป็นต้นไป หรือผู้ที่สร้างงานในประเทศอย่างน้อย 10 ตำแหน่ง
8. โปรตุเกสเริ่มสนใจแสวงหาตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเป็นโอกาสที่จะดึงให้ภาคเอกชนของโปรตุเกสหันมาสนใจไทยในฐานะฮับของอาเซียน
9. ธุรกิจศักยภาพในโปรตุเกสคือธุรกิจที่ไทยมีจุดแข็ง ที่โดดเด่นคือ ภาคการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ดังที่กล่าวมาแล้ว อุตสาหกรรมสำคัญอื่น ๆ ของโปรตุเกส ได้แก่ สิ่งทอและเสื้อผ้า ยานยนต์ ICT พลังงานทดแทน พลังงานชีวมวล กระดาษ เคมีภัณฑ์ ไวน์ และอุตสาหกรรมพลาสติก
10. การประชุม Political Dialogue ไทย-โปรตุเกส ครั้งที่ 2 ที่กำลังจะมาถึงขึ้น เป็นโอกาสที่จะสำรวจพื้นที่จริง และผลักดันความสนใจทางธุรกิจของฝ่ายไทยกับฝ่ายโปรตุเกสอย่างจริงจัง
นักธุรกิจท่านใดสนใจจะร่วมเดินทางใช้จังหวะดี ๆ ในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ไปสำรวจตลาดโปรตุเกสพร้อม ๆ กับกระทรวงการต่างประเทศและผู้แทนภาครัฐ สามารถติดต่อคุณอติภา วรรธนะพงษ์ กรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ที่โทร. 0 -2203- 5000 ต่อ 13189 อี-เมล์
[email protected] เพื่อหารือในรายละเอียดและร่วมเดินทางไปด้วยกัน
พบกับอัพเดตความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่ ThaiBiz ตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.ThaiBiz.net หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่
[email protected]
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,170
วันที่ 30 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559