สตง.แถลงผลสอบตึกถล่ม ก่อสร้างผิดแบบ ฝังเหล็กเสริมน้อย อัยการสั่งฟ้อง 23 ราย

27 ธ.ค. 2568 | 05:31 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ธ.ค. 2568 | 05:36 น.

สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบตึกถล่ม ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้ง ตำรวจ DSI ป.ป.ช. กรมบัญชีกลาง เผยการก่อสร้างไม่เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ ส่งผลให้อาคารรับแรงกระทำได้น้อย สรุปสำนวนอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 23 ราย

KEY

POINTS

  • สตง. แถลงผลสอบสวนอาคารถล่ม พบสาเหตุหลักมาจากการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบและกฎหมายที่บังคับใช้ ทำให้โครงสร้างอาคารอ่อนแอกว่ามาตรฐาน
  • พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลรวม 23 ราย ในความผิดเกี่ยวกับการออกแบบ ควบคุม และก่อสร้างอาคารโดยประมาท
  • ผลการตรวจสอบพบข้อบกพร่องทางเทคนิคหลายประการ เช่น คุณภาพคอนกรีตต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และระยะฝังเหล็กเสริมน้อยกว่าที่กฎหมายบังคับ

วานนี้ (26 ธ.ค.68)สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบตึกถล่ม ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้ง ตำรวจ DSI ป.ป.ช. กรมบัญชีกลาง เผยการก่อสร้างไม่เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ ส่งผลให้อาคารรับแรงกระทำได้น้อย สรุปสำนวนอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 23 ราย


สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้แจงกรณีเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน  (แห่งใหม่) ทรุดตัวลง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุ สตง. ได้ติดตามสถานการณ์และให้ความร่วมมือในการชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริง พร้อมทั้งจัดส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการของคณะกรรมการและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง คณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการวิสามัญ คณะอนุกรรมาธิการ พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงาน ป.ป.ช. และคณะผู้ตรวจสอบของกรมบัญชีกลาง โดยมีรายละเอียดความคืบหน้าการดำเนินการ ดังนี้

  • การตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง

1.การพังถล่มเริ่มต้นที่ส่วนล่างของอาคาร ชั้น 1-4 เนื่องจากแรงเฉือนที่เกิดจากแผ่นดินไหวกระทำต่อผนังรับแรงเฉือนจนเกิดการวิบัติ

2.ผลทดสอบเฉลี่ยของก้อนตัวอย่างคอนกรีตจากผนังรับแรงเฉือนได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 3.แบบรายละเอียดที่ใช้ในการก่อสร้างไม่เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ ส่งผลให้อาคารรับแรงกระทำได้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด

4.ระยะฝังของเหล็กเสริมที่จุดต่อของ Link Beam กับผนังรับแรงเฉือนน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้จุดต่อบริเวณดังกล่าวอ่อนแอลง

  • การดำเนินคดีอาญา

พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ได้สรุปสำนวนและพนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา จำนวน 23 ราย ต่อศาลอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการออกแบบ ควบคุม และก่อสร้างอาคารโดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำ เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย รวมถึงความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 227, 238, 264 และมาตรา 268, พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 , พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตลอดจนกฎกระทรวงและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

สตง.แถลงผลสอบตึกถล่ม ก่อสร้างผิดแบบ ฝังเหล็กเสริมน้อย อัยการสั่งฟ้อง 23 ราย

  • การดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปยังพนักงานอัยการ นอกจากนี้ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และกรณีมีการร้องเรียนและกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งอยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะไต่สวนและวินิจฉัย กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการ

 

  • การดำเนินการของสำนักงาน ป.ป.ช

จากกรณีที่มีการส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้แจ้งให้ สตง. ส่งมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง สตง. ได้จัดส่งเอกสารหลักฐานให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตามที่ร้องขอแล้ว

  • การตรวจสอบของกรมบัญชีกลาง

คณะผู้ตรวจสอบของกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการตรวจสอบ
การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดย สตง. ได้ตอบข้อซักถามและชี้แจงข้อมูล พร้อมทั้งจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อการตรวจสอบดังกล่าวแล้ว