KEY
POINTS
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน ถวายเป็นพระราชกุศลพระพันปีหลวง” ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ที่มีวันหยุดยาว 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2569
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าประชาชนจะเริ่มทยอยเดินทางเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป และคาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะรวมกว่า 25 ล้านคน-เที่ยว แบ่งเป็น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ 21.55 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.83
และปริมาณการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัด 3.99 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.57 จากช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากสถิติข้อมูลในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2568 มีผู้เสียชีวิต 321 คน บาดเจ็บ 1,894 คน นำมาซึ่งความเศร้าเสียใจและความสูญเสียแก่ครอบครัวและญาติมิตรของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ถึงแม้ว่าหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนจะร่วมกันรณรงค์ป้องกันอย่างเต็มที่ สถิติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บก็ยังคงสูงอยู่มาก
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยตั้งเป้าหมาย ลดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ บนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคม
ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ปริมาณจราจรจะมีความแออัดมากในช่วงระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2569 โดยเฉพาะวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ปริมาณจราจรมีแนวโน้มสูงสุด
ทั้งนี้จึงขอให้ประชาชนที่มีจุดหมายการเดินทางในระยะเกินกว่า 300 กิโลเมตร หรือกลุ่มบ้านไกล ให้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในช่วงเริ่มต้นของช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด และเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงปลายเทศกาล
ส่วนกลุ่มบ้านใกล้หรือจุดหมายการเดินทางในระยะทางน้อยกว่า 300 กิโลเมตร ให้ออกเดินทางภายหลังกลุ่มบ้านไกล และกลับเข้ามายังกรุงเทพมหานครก่อน
เพื่อให้การบริหารการจราจรเกิดความคล่องตัว และขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อกระจายการเดินทางและเหลื่อมเวลาการเดินทาง
โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลา 07.00 - 16.00 น. เพื่อเลี่ยงช่วงที่มีปริมาณจราจรสูงสุด โดยขอให้ขยับการเดินทางเร็วขึ้นก่อนเวลา 07.00 น. หรือให้เดินทางช้าลง หลังเวลา 16.00 น.
นอกจากนี้ได้กำชับให้กรมการขนส่งทางบกเตรียมความพร้อมทั้งด้านปริมาณรถและมาตรฐานความปลอดภัย จัดรถเสริมเพิ่มเติม ดูแลการเดินทางตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง
พร้อมตรวจสอบรถโดยสารและรถโดยสารประจำทางผ่านจุดอำนวยความสะดวกและตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ กว่า 200 จุดทั่วประเทศ ทั้งช่วงขาไปและขากลับ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารทุกคน
สำหรับการเดินทางทางราง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
โดยเสริมขบวนรถพิเศษเพิ่มอีก 18 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน
ขณะเดียวกัน รฟท. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยตลอดการเดินทางจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีรถไฟและบนขบวนรถทั่วประเทศ
ตรวจวัดแอลกอฮอล์ สารเสพติดพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่ และห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟทุกกรณีอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ รฟท. ได้บูรณการความร่วมมือกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น
จัดอาสาสมัครเฝ้าระวังทางผ่านเสมอระดับรถไฟ – รถยนต์ ที่มีความเสี่ยง หรือบริเวณที่เป็นชุมชนหนาแน่น เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุทั้งทางถนนและทางรถไฟ
และจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทั่วประเทศเพื่อรับแจ้งเหตุและประสานงานต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569