KEY
POINTS
การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ระดับเลขานุการ ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา เข้าสู่วันที่สองในวันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2568 ซึ่งตรงกับวันคริสต์มาส ณ จังหวัดจันทบุรี โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดหลังจากมีความเห็นขัดแย้งเกี่ยวกับเนื้อหาในเอกสารทางการที่ส่งถึงกัน
พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่ากัมพูชาส่งหนังสือขอเจรจาหยุดยิงเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็น "ข่าวปลอม"
นายพลเตีย เซ็ยฮา อ้างว่าสื่อไทยตีความเอกสารทางการผิดไปจากความเป็นจริง แม้จะมีการใช้เครื่องมือแปลภาษาอย่าง Google Translate หรือ AI อย่าง ChatGPT และ Gemini แต่ผลการแปลกลับไม่ตรงกับสิ่งที่สื่อไทยนำเสนอ ทำให้ทางฝ่ายกัมพูชารู้สึกสับสนต่อการตีความดังกล่าว
ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กัมพูชาเปลี่ยนท่าทีเรื่องจดหมายหยุดยิง โดยระบุว่า "การกระทำทุกอย่างไม่ได้อยู่บนหนังสือ แต่เป็นเรื่องของการตอบโต้ที่ประเทศไทยถูกประเทศอื่นรุกรานโจมตี"
นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะ และขอให้รอฟังผลการประชุม GBC ที่จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทั้งสองฝ่าย โดยหวังว่าหากมีการลงนามในข้อตกลงครั้งนี้ กัมพูชาจะรักษาสัญญาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอย
ในการประชุมวันที่ 2 นี้ คณะผู้แทนฝ่ายกัมพูชานำโดย พลตรี แยม โบราเดน ได้เดินทางข้ามแดนมายังจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี ตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยฝ่ายไทยได้เตรียมร่างข้อตกลงและยึดถือ 3 เงื่อนไขสำคัญ ในการเจรจา ได้แก่:
แม้จะมีการเจรจา แต่สถานการณ์ในพื้นที่จริงยังคงมีการสู้รบ โดยกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่าฝ่ายกัมพูชายังคงใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ และโดรนพลีชีพ (FPV) โจมตีแนววางกำลังของไทยในพื้นที่สัตตะโสม-โดนตรวล และปราสาทตาควาย-ตาเมือน อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กองกำลังบูรพาในพื้นที่ จ.สระแก้ว รายงานว่ามีการรบปะทะเพื่อยึดครองพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 17 แล้ว
การประชุม GBC ครั้งนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสู่การหยุดยิงที่แท้จริง หรือเป็นเพียงกลยุทธ์ทางการทูตท่ามกลางเสียงปืนที่ยังคงดังสนั่นตามแนวชายแดน