ห้างภูธรยักษ์ชี้ ’อนุทิน‘ ยุบสภา ทำคนละครึ่งเฟส 2 ล่ม ฉุดเศรษฐกิจครึ่งแรกปี 69

12 ธ.ค. 2568 | 03:30 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2568 | 03:39 น.

“ตั้งงี่สุน” ชี้ภาวะการเมืองกระทบหนักภาคประชาชน เศรษฐกิจ 6 เดือนแรกปี 2569 อาจวินาศ คาดการณ์ "อนุทิน" โกยแต้มเหนือพรรคประชาชน ใช้โครงการรัฐ-แก้ปัญหาปากท้องประชนได้ถูกจุดในภาวะสงครามไทย-กัมพูชา

KEY

POINTS

  • ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ 'ตั้งงี่สุน' วิเคราะห์ว่าการประกาศยุบสภาของนายกฯ อนุทิน เป็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น
  • การยุบสภาตอนนี้อาจส่งผลให้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญอย่าง "คนละครึ่งเฟส 2" ที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนมกราคม 2569 ต้องหยุดชะงักลง
  • ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่อาจล่าช้าไปถึงกลางปี 2569 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในช่วงครึ่งปีแรก

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง รายใหญ่ในภาคอีสาน เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากกรณีเมื่อค่ำวันที่ 11 ธันวาคม  2568 “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการทั่วไป พร้อมโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “ผมขอคืนอำนาจกลับไปยังพี่น้องประชาชนครับ” 

เรื่องนี้ อาจทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญอย่างโครงการ "คนละครึ่ง" และ "ธงฟ้าประชารัฐ" ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จนส่งผลให้ตัวเลขเติบโตของห้างภูธรสูงถึง 12-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีผ่านมา อาจต้องหยุดชะงักลงในเฟส 2 ซึ่งในเดือนธันวาคมก็ได้เริ่มชะลอตัวลงแล้วเหลือเพียง 3-5%

“การประกาศยุบสภาของนายกฯ อนุทิน คือ สัญญาณชะลอตัวเศรษฐกินที่จะยิ่งรุนแรงขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ซึ่งหลายฝ่ายคาดหวังว่าจะเริ่มได้ในเดือนมกราคม 2569 นั้น อาจจะไม่สามารถเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทัน และเมื่อไม่มีการกระตุ้นต่อเนื่อง กราฟเศรษฐกิจที่เคยถูกดึงขึ้นมาจะลดลงไปเรื่อย ๆ หากรัฐบาลไม่สามารถกระตุกต่อได้”

ห้างภูธรยักษ์ชี้ ’อนุทิน‘ ยุบสภา ทำคนละครึ่งเฟส 2 ล่ม ฉุดเศรษฐกิจครึ่งแรกปี 69

หากสถานการณ์ทางการเมืองและความขัดแย้งยังคงยืดเยื้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามที่ตึงเครียด หรือการเลือกตั้งที่อาจถูกเลื่อนออกไป ซึ่งคาดการณ์ว่า กว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะแล้วเสร็จ อาจล่วงเลยไปถึงเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมปี 2569 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง 

เพราะในช่วงที่ประเทศต้องบริหารด้วยรัฐบาลรักษาการ จะไม่สามารถมีอำนาจเต็มในการแก้ไขปัญหาได้ ทำได้เพียงประคับประคองเท่านั้น ทำให้ภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) อาจกลับไปสู่ภาพเดิมที่เคยเลวร้ายมาแล้ว

นายมิลินทร์ กล่าวว่า ในทางกลับกัน ท่ามกลางวิกฤตความไม่แน่นอนทางการเมือง นายอนุทิน ชาญวีรกูล กลับถูกมองว่า กำลังกุมความได้เปรียบทางการเมือง แม้จะแก้ปัญหาล่าช้าในบางพื้นที่ แต่สิ่งที่อนุทินทำนั้นทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้มากขึ้น

เห็นได้จากความสำเร็จของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และการนำบุคคลที่มีความสามารถและเป็นมืออาชีพจากภาคเอกชนเข้ามาทำงาน เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีภาวะกดดันทางการเมืองรอบข้าง สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ทีมบริหารยังได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการแสวงหาโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ โดยไม่พึ่งพาประเทศมหาอำนาจเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม เกมการเมืองจะเล่นกันอย่างสนุกแน่นอน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าเอาประชาชนเป็นตัวประกัน และต้องแยกเรื่องเศรษฐกิจออกจากเรื่องการเมืองให้ได้อย่างชัดเจน

แม้แต่โครงการคนละครึ่งและบัตรธงฟ้าประชารัฐ ถึงแม้จะเป็นเพียงเครื่องมือในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ก็ทำให้ประชาชนมีแรงที่จะเดินต่อไป และในที่สุดแล้ว หากชาวบ้านกินอิ่ม เศรษฐกิจดี การเมือง การแก้รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายต่างๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็ก