‘อนุทิน’ กำชับบิ๊กข้าราชการ เหยียบคันเร่งทำงานเต็มที่ห้ามแผ่ว

09 ธ.ค. 2568 | 10:44 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2568 | 10:49 น.

นายกฯ อนุทิน ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ขอทุกคนอย่าได้แผ่วเหยียบคันเร่งให้เต็มที่ พร้อมยึดหลักสุจริต โปร่งใส และมีความรับผิดชอบ ยันขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาด

KEY

POINTS

  • นายกฯ อนุทิน สั่งการหัวหน้าส่วนราชการให้เร่งรัดการทำงานเต็มกำลังและห้ามแผ่ว แม้เวลาของรัฐบาลจะเหลือน้อย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
  • การเร่งรัดการทำงานมีขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาเร่งด่วนของประเทศ ทั้งภัยพิบัติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
  • เน้นย้ำให้ข้าราชการยึดมั่นในหลักความสุจริต โปร่งใส และต่อต้านการทุจริตอย่างเด็ดขาด ควบคู่ไปกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ

วันนี้ (9 ธันวาคม 2568) เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 6/2568 โดยมี ปลัดกระทรวงต่าง ๆ และหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ร่วมการประชุม โดยนายกฯ กล่าวขอบคุณในความร่วมมือของหัวหน้าส่วนราชการทุกท่านที่ได้ให้มอบให้ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล พร้อมยืนยันให้มั่นใจและคลายความกังวลใจว่า ตั้งแต่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้เนินการบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มที่ 

"วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาพบกันพร้อมหน้าพร้อมตา การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมที่สำคัญ เพราะหัวหน้าส่วนราชการ คือ คนที่จะต้องขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ทางการเมือง เวลาของรัฐบาลนี้ถือว่านับถอยหลังแล้ว โดยให้คำมั่นว่าจะเคร่งครัดในมารยาท กฎระเบียบ สิ่งหนึ่งที่ต้องขอจากทุกท่านก็คืออย่าได้แผ่ว ในการขับเคลื่อนงาน แต่ขอให้เหยียบคันเร่งให้เต็มที่ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติด้วยความรวดเร็ว" 

อย่างไรก็ดี ยังมีปัญหาเฉพาะหน้ามากมายที่ต้องดูแล อันสืบเนื่องจากภัยพิบัติปัญหาภัยสังคมอย่างสแกมเมอร์ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และล่าสุดปัญหาที่จะสืบเนื่องตามมาจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา รวมถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ดำเนินอยู่ด้วย

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า ด้วยความเข้มแข็งและการจัดวางระบบของราชการฝ่ายประจำที่บริหารจัดการอยู่เสมอมา หากได้ร่วมกัน ปัญหาอุปสรรคของประเทศจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทุกนโยบายที่รัฐบาลประกาศไว้นั้น ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกท่าน ช่วยกันผลักดันอย่างเต็มกำลังภายในระยะเวลาที่มีอยู่ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนภารกิจอย่างเต็มที่ 

 

‘อนุทิน’ กำชับบิ๊กข้าราชการ เหยียบคันเร่งทำงานเต็มที่ห้ามแผ่ว

 

"ขอเน้นอย่างหนักแน่นว่า รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินด้วย หลักความสุจริต โปร่งใส และมีความรับผิดชอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน มุ่งให้หน่วยงานของรัฐทุกระดับ ทั้งส่วนกลาง จังหวัด ท้องถิ่น ปฏิบัติงานไปในทิศทางเดียวกัน การใช้จ่ายงบประมาณต้องมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบและตรวจสอบได้ รัฐบาลได้ดำเนินในแนวทางนี้มาโดยตลอด ขอให้มีความพร้อมในการทำงาน ไม่เกรงกลัวในอำนาจหรืออิทธิพลใด ๆ เป็นหลักในหน่วยงานที่รับผิดชอบ และต้องยึดถือความถูกต้อง”

นายกฯ กล่าวว่า ได้เห็นมีการกระทำมากมายที่เกิดขึ้นในอดีต การใช้กลไกอำนาจรัฐไปในทางมิชอบ เอื้อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มและคณะของตน รวมถึงการใช้อำนาจรัฐในการกลั่นแกล้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นได้ ถ้าทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ และยึดมั่นในความสุจริต ถูกต้อง

โดยมั่นใจว่าถ้าข้าราชการประจำยึดมั่นในเรื่องของหลักธรรมาภิบาล ความซื่อสัตย์ ความถูกต้องแล้ว อำนาจใด ๆ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้กระทำความผิดได้ ขอให้ทุกคนยึดนโยบายเรื่องการขจัดทุจริต และประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ

"ถึงแม้ว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นในอีกไม่นาน แต่ว่าภายใต้รัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้ยังคงต้องทำงานจนกว่าจะมีรัฐบาล คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขอให้มั่นใจว่านายกรัฐมนตรียังจะดำรงตนให้ภารกิจงานของทุกส่วนบรรลุผลสำเร็จในทุกๆ กรณี ถึงแม้จะมีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับอะไรต่างๆ แต่ถือว่าถ้าเจตนาดี ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ถ้ามีสิ่งจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ขอให้ได้มั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะใช้ทุกหนทาง ทุกวิถีทางที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยความราบรื่น"

 

‘อนุทิน’ กำชับบิ๊กข้าราชการ เหยียบคันเร่งทำงานเต็มที่ห้ามแผ่ว

 

สำหรับในที่ประชุม ได้มีการเสนอการดำเนินการวาระแห่งชาติในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือสแกมเมอร์ ของสำนักงาน ปปง. โดยนายกฯ ได้เน้นย้ำให้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามสแกมเมอร์ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม ได้มีการเสนอแนวทางการฟื้นฟูหาดใหญ่ หลังจากที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ โดยเน้นการใช้วัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ 

ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เสนอเรื่อง การป้องกันไฟป่า และหมอกควัน โดยจะร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการสร้างความรู้ความเข้าใจป้องกันไม่ให้เกษตรกรเผานาหรือไร่ เน้นการรับซื้ออ้อยที่ไม่ผ่านการเผาและให้ราคาที่ดีกว่า เพื่อสนับสนุนให้ลดการเผา โดยนายกฯ ขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือกัน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐในการควบคุมไม่ให้เกิดการเผาป่าและไร่นา

นายกฯ ยังได้กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ให้ทุกกระทรวงและหน่วยงาน จัดสรรงบประมาณอย่างรอบคอบให้เกิดประโยชน์สูงสุด อยากให้นำกรอบวงเงินไปใช้ทำโครงการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องของภัยพิบัติ เช่น กรณีดินโคลนถล่มที่จังหวัดเชียงราย และน้ำท่วมหาดใหญ่ที่ผ่านมา 

โดยได้ใช้เงินเยียวยาจำนวนมาก หากนำจำนวนเงินนี้ไปสร้างสิ่งที่จะป้องกันภัยพิบัติได้ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะหากเราไม่สร้างการป้องกัน ก็จะต้องมาแก้ไขแบบนี้ทุกปีโดยสุดท้าย ขอให้คำนึงว่า เงินงบประมาณเป็นเงินของท่าน เพราะมาจากภาษี อยากให้ใช้จ่ายงบประมาณ เหมือนเป็นเจ้าของเงิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด