KEY
POINTS
จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยที่เริ่มกลับมามีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ที่ความหนาแน่นของมลพิษสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การเตรียมความพร้อมวางแผนรับมือให้ดีสามารถช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้อย่างดี โดยข้อมูลล่าสุดจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เผยแพร่พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ประชาชนจะต้อง "เตรียมพร้อมรับมือฝุ่น PM2.5" อย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. เช็กคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน
จากเทคโนโลยีในปัจจุบัน ก่อนเริ่มกิจกรรมนอกบ้านทุกครั้ง ควรตรวจสอบคุณภาพอากาศเบื้องต้นก่อนโดยสามารถเช็กได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่น Air4Thai หรือแอปของ กทม. หากค่าฝุ่นสูง ระดับ สีส้ม หรือ สีแดง ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเปลี่ยนทำงานที่บ้าน Work From Home แทน
2. เตรียมหน้ากากป้องกันฝุ่น
หน้ากาก คือ เกราะป้องกันที่ได้ผลดี หน้ากากไม่ใช่แค่ผ้าปิดปากโดยต้องเลือกใช้หน้ากากที่ได้มาตรฐาน เช่น N95 หรือ หน้ากากที่ระบุว่า สามารถป้องกัน PM2.5 ได้เพื่อป้องกันอนุภาคขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ
3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
ร่างกายที่แข็งแรง คือ ด่านแรกที่สำคัญมาก การดูแลสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรงด้วยการออกกำลังกายที่เหมาะสม ดื่มน้ำสะอาดและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อสภาวะฝุ่นควันได้ดีขึ้น
4. ปิดประตู หน้าต่าง ป้องกันฝุ่นเล็ดลอด
ในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง การปิดประตู หน้าต่าง รวมถึงรอยรั่วต่าง ๆ ของอาคาร เป็นการลดการสะสมของฝุ่น PM2.5 ภายในที่พักอาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและควรใช้เครื่องฟอกอากาศที่ได้มาตรฐานควบคู่กันไป
5. ทำความสะอาดบ้านจัดการแหล่งสะสมฝุ่นภายใน
การทำความสะอาดบ้านด้วยวิธีที่ถูกต้อง เช่น การเช็ดถูด้วยผ้าเปียกแทนการกวาดที่อาจทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย และไม่ละเลยการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่สะสมฝุ่นได้ง่าย เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม หรือเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ
6. รับผิดชอบต่อสังคมด้วยการงดการเผาทุกชนิด
มาตรการทางสังคมที่สำคัญที่สุด คือ การงดการเผาขยะ เศษวัชพืช หรือการเผาในที่โล่งทุกชนิดเนื่องจากการเผาเป็นแหล่งกำเนิด PM2.5 ที่ร้ายแรงและเร่งให้สถานการณ์เลวร้ายลงมากยิ่งขึ้น
7. ลดควันดำบนถนนด้วยการหมั่นตรวจสอบสภาพรถ
เจ้าของรถยนต์ควรหมั่นตรวจสอบสภาพรถเพื่อป้องกันการปล่อยควันดำซึ่งเป็นตัวการสำคัญของฝุ่น PM2.5 ในเขตเมือง
8. ปลูกต้นไม้เพื่อช่วยดักฝุ่น
การปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะพันธุ์ไม้ที่มีคุณสมบัติดูดซับหรือดักจับฝุ่นได้ดี เช่น ต้นโมก ต้นทองอุไร หรือลิ้นมังกร เป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในพื้นที่ใกล้เคียงได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานอย่างมีนัยสำคัญ แนะนำให้เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นที่ได้มาตรฐาน ที่สำคัญหากมีอาการผิดปกติทางร่างกาย เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือแน่นหน้าอก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ควรปล่อยปละละเลยอาการดังกล่าวไว้