การเคหะฯ เปิด3มาตรการเร่งด่วน ชูไฮไลต์ พักชำระหนี้–ปลอดค่าเช่า 3 เดือนเยียวยาน้ำท่วมใต้

01 ธ.ค. 2568 | 04:00 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2568 | 04:12 น.

การเคหะแห่งชาติ - พม. เปิด3มาตรการเร่งด่วน ชูไฮไลต์ พักชำระหนี้–ปลอดค่าเช่า 3 เดือน เร่งเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ 15 โครงการ ผู้ประสบภัย  19,369 ราย  

KEY

POINTS

  • การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ใน 15 โครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบ 19,369 ราย
  • พักชำระหนี้และปลอดค่าเช่าเป็นเวลา 3 เดือน (1 ธ.ค. 68 – 28 ก.พ. 69) เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้เช่าซื้อและผู้เช่าในโครงการ
  • จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่สงขลาเพื่อแจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็น พร้อมจัดกิจกรรม Big Cleaning Day และส่งทีมวิศวกรเข้าตรวจสอบความเสียหายเพื่อเร่งซ่อมแซม

 

สถานการณ์ความรุนแรงน้ำท่วมภาคใต้ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ล่าสุด นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) แสดงความห่วงใยพี่น้องที่อยู่อาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติที่ประสบอุทกภัยจำนวนกว่า 19,000 ราย มอบหมายให้ คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ (คกก.กคช.) และการเคหะแห่งชาติ เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยเดินหน้าเปิด 3 มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหาให้กับชาวชุมชนในพื้นที่

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในครั้งนี้ พบว่ามีโครงการของการเคหะแห่งชาติที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 15 โครงการ มีผู้ประสบภัยถึง 19,369 ราย

แยกเป็น โครงการที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจำนวน 10 โครงการ 5,577 หน่วย มีผู้ประสบภัยถึง 16,731 ราย และโครงการที่ได้รับผลกระทบด้านการสัญจร จำนวน 5 โครงการ 927 หน่วยมีผู้ประสบภัย 2,638 ราย ซึ่ง รมว.พม. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม.เร่งบูรณาการความช่วยเหลือเชิงรุกทันที

ทั้งนี้ คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติมอบหมายให้การเคหะแห่งชาติเร่งออกมาตรการเยียวยาโดยเร่งด่วน ซึ่งการเคหะแห่งชาติได้ออก 3 มาตรการช่วยเหลือในทันทีได้แก่

1. พักชำระหนี้–ปลอดค่าเช่า 3 เดือน ครอบคลุมผู้เช่าซื้อโดยตรงกับ กคช. และผู้เช่าซื้อผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (คบส.) รวมถึงการปลอดค่าเช่าสำหรับผู้เช่าในโครงการของ กคช. ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนของชาวชุมชน 

2. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในโครงการเคหะชุมชนจังหวัดสงขลา (ฉลุง) เพื่อประสานงานช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ระดมกำลังผู้ปฏิบัติงานทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคใกล้เคียง ร่วมกันจัดถุงยังชีพ อาหารปรุงสุก น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ส่งมอบให้ประชาชนในโครงการต่าง  ๆ ของการเคหะแห่งชาติ พร้อมทั้งทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยกู้ภัย และภาคประชาสังคม

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงพื้นที่ การกระจายความช่วยเหลือ และการประสานงานในภาวะฉุกเฉินให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

3. ดำเนินกิจกรรม Big Cleaning Day ในโครงการที่ได้รับผลกระทบ โดยจัดส่งทีมวิศวกรและสถาปนิกเข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายของอาคาร ระบบสาธารณูปโภค และพื้นที่ส่วนกลางอย่างละเอียด เพื่อประเมินความปลอดภัยและกำหนดแนวทางซ่อมแซมฟื้นฟูอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณเพื่อเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้พื้นที่อยู่อาศัยสามารถกลับมาใช้งานได้เป็นปกติและปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยในโครงการ

นอกจากนี้การเคหะแห่งชาติยังได้เร่งระดมความช่วยเหลือจากพี่น้องชาวชุมชนทั่วประเทศอาทิ ห้วยขวาง ดินแดง ร่มเกล้า คลองจั่น บ่อนไก่ ประชานิเวศน์ ธนบุรี หนองจอก ตลอดจนชาวชุมชนในจังหวัด นนทบุรี  สมุทรปราการ นครปฐม ปทุมธานี  และภาคเอกชนร่วมกันบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นม ผ้าอ้อมเด็กและผู้สูงอายุ น้ำดื่มรวมถึงเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อสมทบเป็นธารน้ำใจ ส่งความห่วงใย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนในทันที

 นายทวีพงษ์ ย้ำว่า “การเคหะแห่งชาติพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ และจะเดินหน้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อให้ทุกครอบครัวสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงโดยเร็วที่สุด”

 

มาตรการเร่งด่วนช่วยฟื้นฟูน้ำท่วมใต้