สอวช.จุดพลุ “Plant-Rich Diet” เมนูพืชนำทางสุขภาพ-รักษ์โลก

04 พ.ย. 2568 | 04:42 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2568 | 05:01 น.

สอวช.ลุยผลักดัน “Plant-Rich Diet” หรือ การกินอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก ชูจุดแข็งอาหารไทย-พืชพื้นบ้าน เสริมสุขภาพดี เชื่อมโยง Soft Power ควบคู่กับการรักษ์โลก

KEY

POINTS

  • สอวช. ผลักดันแนวคิด “Plant-Rich Diet” หรือ การกินที่เน้นพืชเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมสุขภาพคนไทย ลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
  • ชูศักยภาพ “อาหารไทย” เป็นต้นแบบเมนูพืชนำ พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมอาหารจากพืช (Plant-Based) เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ตามโมเดล BCG
  • การกินแบบพืชนำช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ โดย สอวช. เสนอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อน และเชิญชวนประชาชนเริ่ม “1 วันพืชนำ” ต่อสัปดาห์

สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เดินหน้าขับเคลื่อนแนวคิด “Plant-Rich Diet” หรือ “การกินที่เน้นพืชเป็นหลัก” เพื่อผลักดันให้สังคมไทยเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอาหารแห่งอนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้โครงการ “Accelerating Thailand’s Protein Transition: Advancing Plant-Rich Diets for a Sustainable Future” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของยุทธศาสตร์ BCG Economy Model และ Soft Power ด้านอาหารของไทย

แนวคิดอาหารพืชนำ (Plant-Rich Diet) คืออะไร

Plant-Rich Diet หมายถึงรูปแบบการบริโภคที่ให้ “พืชเป็นศูนย์กลางของจานอาหาร” โดยเน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว เมล็ดพืช เห็ด และผลิตภัณฑ์จากพืชต่าง ๆ เป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องละเว้นเนื้อสัตว์ 100% แต่ลดปริมาณลง และเสริมด้วยโปรตีนจากพืชที่หลากหลาย เช่น เต้าหู้ ผำ เทมเป้ หรือเนื้อจากพืช (Plant-Based Meat)

แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับรูปแบบการกินเพื่อสุขภาพที่ทั่วโลกยอมรับ เช่น Flexitarian Diet, Mediterranean Diet และ DASH Diet (Dietary Approaches to Stop Hypertension) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพของคนกับสุขภาพของโลก

                          สอวช.จุดพลุ “Plant-Rich Diet” เมนูพืชนำทางสุขภาพ-รักษ์โลก

“หัวใจสำคัญของ Plant-Rich Diet คือการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพของคนกับสุขภาพของโลก ลดการใช้ทรัพยากร ลดคาร์บอน และสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน” สอวช. ระบุ

อาหารไทย: ต้นแบบเมนูพืชนำระดับโลก

สอวช. มองว่า “อาหารไทย” คือหนึ่งในต้นแบบที่สอดคล้องกับแนวทางการกินแบบ Plant-Rich Diet อย่างลงตัว ทั้งในแง่ของวัตถุดิบ ภูมิปัญญา และรสชาติ เช่น เมนู แกงส้มผักรวม, แกงเลียงเห็ด, น้ำพริกผักต้ม, เมี่ยงคำ, หรือแม้แต่ ข้าวต้มมัด ล้วนสะท้อนภูมิปัญญาไทยที่ใช้ผักพื้นบ้านและวัตถุดิบพืชอย่างคุ้มค่าและอร่อย

ในขณะเดียวกัน เทรนด์นวัตกรรมอาหารจากพืช (Plant-Based Innovation) ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไทย ไม่ว่าจะเป็น โปรตีนทางเลือกจากพืช (Plant-Based Protein), นมพืชหลากชนิด เช่น นมถั่วเหลือง นมข้าว นมถั่วลายเสือ, หรือ ขนมขบเคี้ยวและอาหารพร้อมทาน Plant-Based ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงเมนูสุขภาพได้ง่ายขึ้นโดยไม่ทิ้งรสชาติ

                           สอวช.จุดพลุ “Plant-Rich Diet” เมนูพืชนำทางสุขภาพ-รักษ์โลก

4 เหตุผลที่ไทยควรขับเคลื่อน Plant-Rich Diet

สอวช. เปิดเผยปัจจัยสำคัญ 4 ประการที่ประเทศไทยควรส่งเสริมแนวคิดการกินพืชเป็นหลัก ได้แก่

เสริมสุขภาพคนไทย – ลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ

อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ – พัฒนาและใช้ประโยชน์จากพืชท้องถิ่น เช่น ผักพื้นบ้าน งา ถั่ว และผำ ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารสูง

สร้างเศรษฐกิจใหม่จากอาหารพืช – เพิ่มมูลค่าให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ ผ่านอุตสาหกรรมอาหารจากพืช (Plant-Based Food Industry) ที่มีแนวโน้มขยายตัวทั่วโลก

สิ่งแวดล้อมยั่งยืน – การผลิตอาหารจากพืชใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการผลิตเนื้อสัตว์หลายเท่า และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ

มีการประเมินว่า หากคนไทยเพียง 10% ปรับพฤติกรรมการกินเป็นแบบ Plant-Rich Diet จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 1 ล้านตันต่อปี

                   สอวช.จุดพลุ “Plant-Rich Diet” เมนูพืชนำทางสุขภาพ-รักษ์โลก

โมเดลขับเคลื่อนอาหาร 4 ภาคส่วน 

นางสาวสิรินยา ลิม ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ สอวช. กล่าวว่า การผลักดันให้ Plant-Rich Diet เติบโตอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยการขับเคลื่อนร่วมกันของทุกภาคส่วน ได้แก่

ภาครัฐ: ออกนโยบายสนับสนุน เช่น การจัดซื้ออาหาร Plant-Based ในหน่วยงานของรัฐ และสนับสนุนงานวิจัยด้านโปรตีนจากพืช
ภาคเอกชน: พัฒนาเมนูและผลิตภัณฑ์ Plant-Based ที่ตอบโจทย์ทั้งรสชาติ คุณค่าโภชนาการ และความยั่งยืน

ภาคการศึกษาและวิจัย: ร่วมสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านอาหารแห่งอนาคต

ภาคประชาชน: เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการกำหนด “1 วันพืชนำ” ต่อสัปดาห์ เพื่อสุขภาพตัวเองและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ สอวช. ยังได้เริ่มนโยบายภายในองค์กร โดยกำหนดให้ ไม่น้อยกว่า 30% ของเมนูอาหารในกิจกรรมและการประชุม เป็นเมนูจากพืช (Plant-Based) เพื่อสร้างวัฒนธรรมการบริโภคใหม่ในหน่วยงานต้นแบบ

                       สอวช.จุดพลุ “Plant-Rich Diet” เมนูพืชนำทางสุขภาพ-รักษ์โลก

พร้อมกันนี้ สอวช. ยังเปิดตัวเว็บไซต์ www.plantrichdiet.nxpo.or.th  เพื่อเป็นพื้นที่ให้ประชาชน นักวิจัย และผู้ประกอบการเข้าศึกษาข้อมูล และเข้าร่วมเครือข่ายผู้ผลิต–ผู้บริโภคอาหารจากพืชทั่วประเทศ

“หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อน จะเกิดผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ สร้างระบบอาหารไทยให้ยั่งยืนได้ในระยะยาว” นางสาวสิรินยา ลิม กล่าวทิ้งท้าย