วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของประเทศไทยที่ประชาชนชาวไทยต่างร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยทั่วประเทศ
ทั้งนี้ในวันดังกล่าวจึงได้รับการกำหนดให้เป็น "วันนวมินทรมหาราช" เพื่อถวายความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระราชจริยวัตรอันงดงามและพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญเพื่อประชาชนตลอดพระชนม์ชีพและเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชจริยวัตรอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็น “พ่อแห่งแผ่นดิน” ที่สถิตอยู่ในหัวใจคนไทยตราบนิรันดร์
เริ่มจากสำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเจริญอริยมรรค “สัมมาทิฏฐิ” ระลึกถึงพระรัตนตรัย ว่าเป็นสรณะที่พึ่งที่ยึดถือ อันเป็นทางเป็นธรรมที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้โดยชอบ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” พุทธศักราช 2568 ระหว่างวันที่ 8 – 15 ตุลาคม 2568 ผ่านแอปพลิเคชัน “สมาธิเสบียงบุญสามารถ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทั้ง Play Store และ App store
สำนักพระราชวัง ขอแจ้งการเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม 2568 เนื่องจากมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันนวมินทรมหาราช พุทธศักราช 2568
สำนักพระราชวัง ขอแจ้งการวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันจันทร์ ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๘
สำนักพระราชวัง ขอแจ้งการวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” พุทธศักราช 2568 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม 2568
ช่วงที่ 1 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 12.00 น.
ช่วงที่ 2 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึงเวลา 21.00 น.
หมายเหตุ ผู้ที่ประสงค์จะวางพวงมาลา กรุณาลงทะเบียน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ อำนวยความสะดวกสถานที่ตั้งพวงมาลา สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มลงทะเบียน เพื่อนำไปแจ้งความประสงค์ที่กองอำนวยการ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
ร้อยดวงใจไทยทั่วหล้า บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคม มีวันสำคัญของพระมหากษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ 2 พระองค์ คือ “วันปิยมหาราช” 23 ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงวางรากฐานและพัฒนาสยามประเทศไปสู่ความเป็นสมัยใหม่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “สภาอุณาโลมแดงแห่งชาติสยาม” และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2436 นับเป็นจุดเริ่มต้นของ “สภากาชาดไทย”จวบจนปัจจุบัน
และ “วันนวมินทรมหาราช” 13 ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เป็นที่รัก เทิดทูน และเป็นศูนย์รวมใจของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ และประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทรงสนับสนุนส่งเสริมงานด้านการบริการโลหิตมาอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศ ร่วมแสดงความจงรักภักดี บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล ในโครงการ “น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราช” พระมหากษัตริย์ผู้ทรงอุทิศกำลังพระวรกายเพื่อความผาสุกของพสกนิกรชาวไทย และร่วมสืบสานพระราชปณิธานการทำความดีเพื่อแผ่นดินไทย ตลอดเดือนตุลาคม 2568 บริจาคโลหิต ได้ที่
ฝ่ายจัดหาผู้บริจาคโลหิตและสื่อสารองค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โทรศัพท์ 0 2256 4300, 0 2263 9600-99 ต่อ 1760, 1761
จัดงานมหกรรม‘ในความทรงจำ’
พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า “ทุกปีที่เดือนตุลาคมเวียนมา เราคนไทยทุกคนต่างหวนคิดถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร งานมหกรรม‘ในความทรงจำ’ ครั้งนี้ จัดขึ้นด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและความภักดี เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเสียสละพระวรกายประกอบพระราชกรณียกิจในถิ่นทุรกันดาร
เพื่อหวังให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชนที่อาศัยบนพื้นแผ่นดินไทย นอกจากนี้ยังเป็นเวทีในการถ่ายทอดองค์ความรู้ หลักคิด และภูมิปัญญาที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เราจึงอยากให้ทุกคนได้มาเรียนรู้ สัมผัส และแบ่งปันเรื่องราวดีๆเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวเดินต่อไปตามคำสอนของพ่อ พร้อมกับร่วมสืบสานพระราชปณิธาน และขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
กิจกรรมสำคัญในงาน คือ กิจกรรมน้อมรำลึกในวันนวมินทรมหาราช วันที่ 13 ตุลาคม 2568 เวลา 08.30 น. ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 59 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ร่วมใจน้อมรำลึกสงบนิ่งอย่างพร้อมเพรียง เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของประชาชน ในบรรยากาศที่อบอวนไปด้วยเสียงขลุ่ย “แห่งความทรงจำ” และ “บทเพลงแห่งคุณงามความดี” จากศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และคุณขวัญข้าว ธิดารินทร์
นิทรรศการเทิดพระเกียรติ “รฦก ร.9 ในความทรงจำ” ที่จะพาผู้เข้าชมย้อนรำลึกผ่านภาพถ่ายและเรื่องราวพระราชกรณียกิจในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร สะท้อนภาพพระวิริยะอุตสาหะและพระเมตตาของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมุ่งหวังให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยพระองค์ทรงเน้นไปที่การพัฒนาทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรดิน และทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งถือเป็นรากฐานของการพัฒนาการเกษตรและคุณภาพชีวิตของประชาชน
นอกจากนี้ยังมี นิทรรศการเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ “ผู้น้อมนำ คำพ่อสอน” ถ่ายทอดเรื่องราวของบุคคลและชุมชนที่น้อมนำหลักทรงงานและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติจริงจนเกิดผลสำเร็จที่เราสามารถจับต้องได้ สะท้อนและสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนเห็นถึงพลังของการลงมือทำและการต่อยอดองค์ความรู้สู่การพัฒนาชีวิตอย่างยั่งยืนจาก 8 ฐานการเรียนรู้ อาทิ ฐานการเรียนรู้ “ปลูกป่าในใจคน สร้างคนปลูกป่า” ฐานการเรียนรู้ “ขาดทุนคือกำไร” ฐานการเรียนรู้ “น้ำคือชีวิต รู้คิด รู้ใช้” เป็นต้น และนิทรรศการพิเศษ “ในความทรงจำ” จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานภาคีความร่วมมือ กว่า 12 หน่วยงาน ที่ผนึกกำลังมาร่วมกันถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน
เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการเกษตร กับวิทยากรมากประสบการณ์และเกษตรกรตัวจริงเสียงจริง ที่นำองค์ความรู้มาถ่ายทอดให้ผู้ที่เข้าร่วมวิชาของแผ่นดินและ Workshop ได้เรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตกว่า 12 หลักสูตร โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ทั้ง Onsite และ Online ทาง Youtube พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อาทิ หลักสูตร “เกษตรพอเพียง สไตล์ลุงแสบ” หลักสูตร “ปลูกผัก ปลูกสุข ปลูกความทรงจำ” หลักสูตร “มหัศจรรย์พืชพื้นถิ่น “มะปี๊ดเมืองจันท์” หลักสูตร “จากโกโก้สู่ช็อกโกแลต” หลักสูตร “น้ำหมักชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์” หลักสูตร “สบู่ทำมือ จากธรรมชาติ” เป็นต้น
อีกหนึ่งสีสันของงานคือ ตลาดเศรษฐกิจพอเพียง ที่รวมสินค้าเกษตรจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ฯ และเกษตรกรภาคีความร่วมมือทั่วประเทศกว่า 200 ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์แปรรูปคุณภาพ พันธุ์ไม้ดอก ไม้ผล ไปจนถึงอาหารพื้นบ้านรสชาติอร่อย ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม ช๊อป อย่างมีความสุขในราคาย่อมเยา และพิเศษกับกิจกรรม “ขาดทุน คือ กำไร” จำหน่ายสินค้าคุณภาพในราคาต่ำกว่าทุนเพื่อส่งต่อกำไรที่เรียกว่า “ความสุข” ให้กับสังคม เข้าชมฟรี พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร และพิพิธภัณฑ์ดินดล และพลาดไม่ได้กับกิจกรรมหล่อเหรียญที่ระลึกพระบรมรูป โดยกลุ่มศิลปิน “ให้เบ็ดดีกว่าให้ปลา” ตลอดทั้ง 3 วัน
พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย กล่าวเชิญชวนว่า “ขอเชิญทุกท่านมาร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านเรื่องราวและคำสอนที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกคนได้นำไปปรับใช้ในชีวิต พร้อมสืบสานพระราชปณิธานและต่อยอดสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในงานมหกรรม “ในความทรงจำ” ระหว่างวันที่ 11–13 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00–17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี”