’ชัชชาติ‘ ยันสถานการณ์น้ำ กทม.ยังไม่วิกฤต แม้น้ำในเขื่อนสูง

05 ต.ค. 2568 | 11:44 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2568 | 11:59 น.

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยืนยันสถานการณ์น้ำกรุงเทพฯ ยังไม่วิกฤต แม้ปริมาณน้ำในเขื่อนสูง ย้ำเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 10 - 11 ต.ค. นี้

KEY

POINTS

  • ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันสถานการณ์น้ำยังไม่วิกฤต แม้เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำสูง แต่การบริหารจัดการน้ำดีกว่าปี 2554 และปริมาณน้ำที่ปล่อยมายังอยู่ในระดับที่รับมือได้
  • ภาพรวมปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่หนัก เช่น เขตประเวศ เริ่มดีขึ้น แต่ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังในซอยย่อยและการระบายน้ำจากคลองประเวศที่ไหลได้ช้า
  • สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือน้ำทะเลหนุนสูงในวันที่ 10-11 ต.ค. โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม. ระหว่างการลงพื้นที่สถานีสูบน้ำพระโขนงซึ่งเป็นหัวใจหลักในการรับมือน้ำท่วม 

โดยระบุว่า ภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาหนักเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เขตประเวศ ซึ่งเป็นจุดที่เมื่อวานนี้ (4 ต.ค. 68) มีฝนตกหนักสูงสุด 122 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการดูแลน้ำท่วมขังในซอยย่อยอย่างต่อเนื่อง

’ชัชชาติ‘ ยันสถานการณ์น้ำ กทม.ยังไม่วิกฤต แม้น้ำในเขื่อนสูง

สำหรับสถานการณ์น้ำเหนือยังไม่น่าเป็นห่วงและไม่ถึงขั้นวิกฤต แม้ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนหลักจะค่อนข้างสูง แต่การบริหารจัดการน้ำในปีนี้ดีกว่าปี 2554 อย่างมาก ปริมาณน้ำที่ปล่อยมายังต่ำกว่าปี 2554 ตอนนี้เขื่อนแควน้อยมีน้ำในเขื่อนเต็มแล้ว เขื่อนสิริกิติ์เกือบเต็ม เขื่อนภูมิพลก็น้ำเยอะ โดยปริมาณน้ำที่ปล่อยมาอยู่ที่ประมาณ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ยังอยู่ในปริมาณที่สามารถรับได้คือ 3,500 ลบ.ม./วินาที

ในส่วนของการระบายน้ำที่สถานีสูบน้ำพระโขนงขณะนี้สามารถคุมระดับน้ำไว้ที่ -1 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) แต่ปัญหาคือน้ำจากคลองประเวศไม่สามารถไหลมาได้ทัน เนื่องจากคลองประเวศมีความคดเคี้ยวมาก ทำให้ระดับน้ำด้านบนยังคงเอ่ออยู่ ซึ่งในอนาคตอาจจะต้องพิจารณาการทำอุโมงค์ระบายน้ำ อย่างไรก็ตาม หากอุโมงค์หนองบอนที่กำลังจะเปิดใช้ในปีหน้าแล้วเสร็จ จะช่วยเสริมการระบายน้ำได้ดีขึ้น

’ชัชชาติ‘ ยันสถานการณ์น้ำ กทม.ยังไม่วิกฤต แม้น้ำในเขื่อนสูง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ น้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 10 และ 11 ต.ค. 68 โดยจะมีการขึ้นของน้ำ 2 ครั้งต่อวัน คือช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. และช่วงเย็นประมาณ 19.00 น. พร้อมย้ำว่า ประชาชนโดยรวมยังไม่ต้องวิตกกังวล แต่ขอให้คนที่อยู่ริมน้ำ นอกแนวคันกั้นน้ำเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เช่น ชุมชนโรงสี เทวราชกุญชร และพื้นที่ริมน้ำอื่น ๆ

’ชัชชาติ‘ ยันสถานการณ์น้ำ กทม.ยังไม่วิกฤต แม้น้ำในเขื่อนสูง ทั้งนี้ กทม. ได้มีการเสริมกระสอบทราย รวมถึงต่อทางเดินไม้สำหรับให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจร

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้กล่าวถึงการทำประตูกั้นน้ำคลองย่อยซึ่งชาวบ้านไม่ให้ทำว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะประตูกั้นน้ำจะทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมน้ำดีขึ้น

“สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง ทางสำนักการระบายน้ำก็ทำงานกันเต็มที่ ไม่มีวันหยุด เพราะว่าน้ำท่วมไม่มีวันหยุด ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ก็ห้ามหยุด อีกนิดเดียวจะหมดฤดูฝนแล้ว และจะเข้าฤดูฝุ่นแทน ต่อไปต้องเตรียมรับมือฝุ่น ส่วนพื้นที่ไหนยังท่วมอยู่ให้แจ้งมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย