สถานการณ์น้ำในเขื่อนล่าสุดวันนี้ 2 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของวันนี้เป็นต้นไป กรมชลประทานจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากอัตรา 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,400 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 16.00 น. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนที่ไหลลงมาสมทบอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณ
เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูง หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกับคณะผู้บริหารสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ โดยหลังจากการหารือได้เปิดเผยว่า ด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำของประเทศ เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสมในลุ่มน้ำต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก จากอิทธิพลของพายุหลายลูกติดต่อกัน ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดปัญหาอุทกภัยสร้างความเสียหายต่อประชาชน จึงได้มอบหมายให้มีการติดตามสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเร่งด่วน พร้อมหารือร่วมกับ สทนช. เกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการน้ำในช่วงเดือนตุลาคม
ทั้งนี้เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) คาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำ รวมถึงขณะนี้เขื่อนสิริกิติ์มีความเสี่ยงน้ำล้น จึงต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำและอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน และมวลน้ำจากพื้นที่ตอนบนของประเทศจะไหลลงมาสมทบกับปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องเพิ่มการระบายน้ำ และอาจส่งผลกระทบเพิ่มต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จึงได้เน้นย้ำให้ สทนช. ประสานกรมชลประทานเพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด โดยให้พิจารณาผันน้ำเข้าสู่ทุ่งที่เก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ และต้องไม่กระทบต่อพื้นที่ชุมชน
รวมถึงให้ติดตามข้อมูลคาดการณ์สภาพอากาศและปริมาณฝนที่จะตกเพิ่มในช่วงนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจบริหารจัดการน้ำ ทั้งในพื้นที่เหนือและใต้เขื่อนเจ้าพระยา ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ เร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง พร้อมทั้งปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนแต่ละแห่งให้สอดคล้องกัน เพื่อรักษาโครงสร้างเขื่อนให้มั่นคง และลดผลกระทบให้เกิดแก่ประชาชนในทุกพื้นที่น้อยที่สุด