KEY
POINTS
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายน 2568 ได้เกิดเหตุการณ์ช็อกกลางเมือง เมื่อถนนสามเสน บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลและสถานีตำรวจนครบาลสามเสน
เกิดการ ถนนทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ อย่างไม่คาดคิด หลุมที่เกิดขึ้นมีความกว้างประมาณ 30 x 30 เมตร และลึกกว่า 50 เมตร
เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ทั้งรถยนต์และทรัพย์สินของทางราชการ เช่น รถยกและรถตำรวจ รวมถึงเสาไฟฟ้าหักโค่นและท่อน้ำประปาแตก
แม้จะยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ แต่เหตุการณ์นี้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการสัญจรและการบริการของโรงพยาบาล
ท่ามกลางความโกลาหล ภาพที่กลายเป็นไวรัลและสร้างความตื่นตะลึงคือภาพของ รถยนต์กระบะ Toyota รุ่น Hilux Revo Z-Edition สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2 ฒว 4854 กรุงเทพมหานคร ที่จอดนิ่งอยู่บริเวณขอบหลุมที่ทรุดตัวอย่างหมิ่นเหม่อ
ตัวรถครึ่งหนึ่งลอยอยู่เหนือเหวลึกหลายสิบเมตร แต่ยังคงยึดเกาะถนนไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถใช้เครนกู้รถกระบะคันดังกล่าวที่รอดหวุดหวิดออกจากพื้นที่เกิดเหตุพื้นที่ก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายสีม่วงใต้ถนนสามเสนได้สำเร็จในเวลา 11.30 น. ของวันเดียวกัน
สำหรับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ถนนทรุดตัวครั้งนี้ และมีคำถามสำคัญว่า หากรถยนต์มีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะได้รับความคุ้มครองหรือไม่
ข้อมูลจาก TISCO ระบุคำตอบคือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครอง เนื่องจากกรมธรรม์ชั้น 1 นั้นครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุโดยไม่จำกัดคู่กรณี
และยังรวมถึงความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม, ดินถล่ม, ถนนทรุดตัว, การชน, การพลิกคว่ำ, หรือการตกหลุม
ดังนั้น ผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ถนนทรุดตัว จึงสามารถยื่นเคลมความเสียหายได้
ขั้นตอนการยื่นเคลมประกันชั้น 1 (5 ขั้นตอน)
สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นเคลมความเสียหายจากเหตุการณ์ถนนทรุดตัวนี้ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. บันทึกเหตุการณ์และถ่ายรูปหลักฐาน ทั้งภาพตัวรถและพื้นที่เกิดเหตุ
2. แจ้งบริษัทประกันภัยทันที ผ่านสายด่วนหรือแอปพลิเคชัน
3. เตรียมเอกสารสำคัญ ได้แก่ กรมธรรม์, ใบขับขี่, และสำเนาทะเบียนรถ
4. รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเสียหาย
5. นำรถเข้าซ่อม ศูนย์หรืออู่ในเครือ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนต่างหวาดผวา ทางภาครัฐโดยหน่วยงานหลักคือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ต้องเป็นผู้รวบรวมความเสียหายทั้งหมด ตามคำสั่งของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
ขณะนี้จึงยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากอะไร เป็นความผิดพลาดจากการก่อสร้างหรือไม่ หรือเกิดจากภัยธรรมชาติ หรือการออกแบบ ซึ่งเป็นเรื่องทางวิศวกรรมศาสตร์ล้วน ๆ จึงต้องมีการระดมทีมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากหลายภาคส่วน ทั้งสภาวิศวกร กรมโยธาธิการ สำนักโยธา กทม. และสถาบันวิศวกรรมศาสตร์ เข้ามาเร่งหาและพิสูจน์สาเหตุให้ได้โดยเร็วที่สุด