ลุ้นธ.ค.นี้ ‘รฟท.’ เปิดให้บริการ ‘รถไฟญี่ปุ่น’ รับเส้นทางอยุธยา-ดอนเมือง

08 ก.ย. 2568 | 08:40 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ย. 2568 | 08:53 น.

‘รฟท.’ เดินหน้าปรับปรุงระบบรถไฟญี่ปุ่น Kiha 4 คัน อัพเกรดมาตรฐานวิศวกรรม ปักธงคันแรกปรับปรุงเสร็จ ก.ย. นี้ เตรียมนำร่องให้บริการเส้นทางอยุธยา–ดอนเมือง เริ่ม ธ.ค.นี้

KEY

POINTS

  • รฟท. กำลังปรับปรุงรถไฟดีเซลรางรุ่น Kiha 40 และ 48 ที่ได้รับจากญี่ปุ่น โดยรถต้นแบบคันแรกจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้
  • คาดว่าจะสามารถนำรถที่ปรับปรุงแล้วจำนวน 4 คัน ออกให้บริการได้ภายในเดือนธันวาคม 2568
  • เบื้องต้นมีแผนจะนำร่องให้บริการในเส้นทางดอนเมือง – อยุธยา เพื่อรองรับการเดินทางและส่งเสริมการท่องเที่ยว

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. เดินหน้าปรับปรุงรถดีเซลรางรุ่น Kiha 40 และ Kiha 48 จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชน 

ขณะเดียวกันรถต้นแบบคันแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ จากนั้นจะมีอีกหนึ่งคันแล้วเสร็จตามมาในเดือนตุลาคม ก่อนทยอยปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ลุ้นธ.ค.นี้ ‘รฟท.’ เปิดให้บริการ ‘รถไฟญี่ปุ่น’ รับเส้นทางอยุธยา-ดอนเมือง

“ยืนยันว่า การปรับปรุงรถ Kiha 40,48 ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย มั่นใจได้ในมาตรฐานความปลอดภัย และเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาการให้บริการของการรถไฟฯ อย่างยั่งยืน” นายวีริศ กล่าว 
 

ทั้งนี้ตามแผนงาน การรถไฟฯ คาดว่าจะสามารถนำรถ Kiha 40,48 ที่ปรับปรุงเสร็จแล้วจำนวน 4 คัน ออกให้บริการได้ภายในเดือนธันวาคม 2568 

ลุ้นธ.ค.นี้ ‘รฟท.’ เปิดให้บริการ ‘รถไฟญี่ปุ่น’ รับเส้นทางอยุธยา-ดอนเมือง อย่างไรก็ดีเบื้องต้นวางแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทาง ดอนเมือง – อยุธยา เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
 

ส่วนการปรับปรุงดังกล่าวครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมและระบบการทำงานของรถ โดยเฉพาะระบบปรับอากาศที่ต้องดัดแปลงใหม่ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งในสภาพอากาศหนาวของภูมิภาคอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น 

ลุ้นธ.ค.นี้ ‘รฟท.’ เปิดให้บริการ ‘รถไฟญี่ปุ่น’ รับเส้นทางอยุธยา-ดอนเมือง นายวีริศ กล่าวต่อว่า การรถไฟฯ จึงได้ปรับปรุงช่องจ่ายลมเย็นให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย รวมถึงปรับปรุงคอมเพรสเซอร์ ชุดคอยล์ระบายความร้อน และคอยล์เย็น เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้การรถไฟฯ ยังได้ดำเนินการทดสอบด้านสมรรถนะของรถ อาทิ การทดสอบระยะห้ามล้อ อัตราเร่ง และการสั่นสะเทือนเชิงกล เพื่อให้มั่นใจว่ารถมีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน ก่อนนำออกให้บริการประชาชน