อนุทิน ลั่น เขากระโดง-ฮั้วสว.ต้องใช้กฎหมายทำให้ถูกต้องไม่เช็กบิลย้อนหลัง

07 ก.ย. 2568 | 09:57 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ย. 2568 | 10:03 น.

นายกฯอนุทิน  ลั่นเขากระโดง-ฮั้วสว.  ต้อง ใช้กฎหมาย ทำให้ถูกต้อง ที่ดินของรัฐต้องเป็นของรัฐ ไม่มีเช็คบิลย้อนหลังใครแน่นอน

KEY

POINTS

  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยืนยันจะใช้กฎหมายจัดการปัญหาที่ดินเขากระโดงและข้อกล่าวหาฮั้ว สว. อย่างเต็มที่และโปร่งใส เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเป็นที่ยอมรับ
  • ยืนยันว่าจะไม่มีการเช็กบิลหรือแก้แค้นทางการเมืองย้อนหลังต่อผู้ที่ใส่ร้าย แต่จะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
  • จะกำกับดูแลหน่วยงานอย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม และยึดหลักความยุติธรรมที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน

 

 

 ภายหลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32  พร้อมแถลงยืนยันมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ซื่อสัตย์สุจริต   ที่มีนโยบายเร่งด่วน ทำทันที ทั้งการแก้ปัญหาเศราฐกกิจ  ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา การแก้ปัญหา  ภัยธรรมชาติ และภัยสังคม ทุปรูปแบบ ขณะที่ คดีเขากระโดง  มีหลายฝ่ายตั้งคำถามโดยเฉพาะ นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มองว่า กรณีเขากระโดงจะหายไปตลอดกาลนั้น

นายอนุทิน กล่าวว่า แต่ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ อะไรเป็นของรัฐ ก็ต้องเป็นเป็นของรัฐ แต่ขอให้ทำตามกฏหมาย แต่อย่ามายัดเยียด หรือมาปรุงแต่งเหมือนที่เขาทำกันมา ส่วนเรื่องที่จะมีการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง นายอนุทิน ระบุว่า ทุกอย่างทำตามกฏหมาย แต่หากพูดไปมากเดี๋ยวจะไปขัดแย้งกัน

อนุทิน ชาญวีรกูล

โดยย้ำว่าทุกอย่างจะใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ทั้งเรื่องที่ดินเขากระโดงและดรื่องฮั้ว สว. และอะไรก็ตามที่จงใจใส่ร้ายป้ายสี เพื่อประโยชน์ของพวกเขาเอง ซึ่งตนจะติดตามอย่างใกล้ชิดและเปิดเผย และใช้กฎหมายให้เป็นที่ยอมรับของทุกคน ให้ปราศจากข้อสงสัย พร้อมย้ำว่าพวกเราไม่ได้ทำ ทั้งนี้เมื่อเราไม่ได้ทำก็ไม่มีใครสามารถเอาผิดพวกเราได้ ยกเว้นพวกที่จะเอาเรื่องนี้มาใส่ร้ายป้ายสี และไม่ขอบอกว่าใคร เท่าที่ติดตามดูก็เห็นอยู่แล้วว่าใคร

 

ส่วนมีความกังวลเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ หรือไม่เพราะดูแลเรื่องเขากระโดง และฮั้ว สว. นายอนุทิน ถามกลับว่ากังวลเรื่องอะไร ซึ่งตนกังวลว่าเขาจะทำไม่ดี ซึ่งจะเข้าไปกำกับดูแลเพื่อให้เขาทำให้ดีครั้งหนึ่ง ทำให้มันถูกต้อง โปร่งใส ไม่เป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่ใช้อำนาจรัฐในการข่มเหงรังแกประชาชน
 

“ถ้าคนอย่างพวกผมยังโดนกล่าวหา กลั่นแกล้งขนาดนี้ แล้วประชาชนทั่วไป เวลาโดนแบบนี้บ้างจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นตรงนี้หากเข้ามาแล้วก็ต้องทำให้ดีขึ้น ให้อำนาจการกลั่นแกล้งและความพยายามทั้งหลายที่จะยัดเยียดข้อหา หรือใช้อำนาจรัฐก่อให้เกิดโทษแก่ผู้ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม สิ่งพวกนี้ต้องหมดไป และต้องใช้กระบวนการยุติธรรม Justice for all (ความยุติธรรมสำหรับทุกคน) และทุกคนต้องเท่าเทียมกันหมด "
 

นายอนุทินกล่าวว่า บ้านเมืองนี้ขื่อมีแป มีกฎหมาย อย่าให้คนพาลมาทำแบบนี้เพื่อประโยชน์ของตัวเองนั่นไม่ได้ พร้อมย้ำว่าหลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ซึ่งตนเองมีสัญญาณหลายอย่าง ตั้งแต่มีข่าวเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่อยากมองว่าเป็นการเปลี่ยน แต่หลายคนบอกว่าถูกบังคับให้ทำ แต่ไม่เป็นไร ค่อยๆ ว่ากันไป 
 

"ผมไม่มีคำว่าเช็คบิล และไม่มีอะไรทั้งสิ้น และคำว่าเจ๊เก็บตังค์สำหรับผมนั้นไม่มี“ นายอนุทินกล่าว