สรุปสูตรใหม่เงินสมทบประกันสังคม 2569 แบ่ง 3 ขั้นตามรายได้
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตรียมปรับโครงสร้าง “เงินสมทบ” ใหม่แบบขั้นบันได 3 ระดับตามรายได้จริง ภายใต้แนวคิด “จ่ายตามจริง ได้ประโยชน์ตามจริง”
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ประกาศเตรียมปรับโครงสร้างเงินสมทบประกันสังคมครั้งใหญ่ เริ่มปี 2569 ภายใต้แนวคิด "จ่ายตามจริง ได้ประโยชน์ตามจริง" โดยจะใช้ระบบเงินสมทบแบบขั้นบันได 3 ระยะตามระดับรายได้ เพื่อให้สอดรับกับเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลง พร้อมยังคงหลักความเป็นธรรมแก่ผู้ประกันตนทุกกลุ่ม
ปัจจุบันผู้ประกันตน มาตรา 33, 39 และ 40 จ่ายเงินสมทบโดยอิงจากฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท ซึ่งไม่สะท้อนรายได้ที่แท้จริง ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและกระทบต่อเสถียรภาพของกองทุนในระยะยาว
การปรับสูตรใหม่จึงมุ่งให้ผู้มีรายได้สูงจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้นเพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันผู้มีรายได้น้อยยังได้รับความคุ้มครองในระดับที่เหมาะสมตามกำลังจ่าย
เปิดสูตรใหม่ "จ่ายมาก-ได้มาก" แบ่ง 3 ขั้นตามรายได้จริง
ขั้นที่ 1 (ปี 2569 – 2571)
เพดานค่าจ้าง ปรับจาก 15,000 เป็น 17,500 บาท
เงินสมทบสูงสุดต่อเดือน ปรับจาก 750 เป็น 875 บาท
สิทธิประโยชน์ที่ปรับเพิ่ม เช่น
เจ็บป่วย 7,500 เป็น 8,750 บาท/เดือน (สูงสุด 52,500 บาท)
คลอดบุตร 22,500 เป็น 26,250 บาท/ครั้ง
ทุพพลภาพ: 8,750 บาท/เดือน
เสียชีวิต 90,000 เป็น 105,000 บาท
ว่างงาน 8,750 บาท/เดือน
บำนาญชราภาพ
ส่งสมทบ 15 ปี 3,000 เป็น 3,500 บาท/เดือน
ส่งสมทบ 25 ปี 5,250 เป็น 6,125 บาท/เดือน
ขั้นที่ 2 (ปี 2572 – 2574)
เพดานค่าจ้าง 20,000 บาท
เงินสมทบสูงสุดต่อเดือน 1,000 บาท
สิทธิประโยชน์ที่ปรับเพิ่ม เช่น
เจ็บป่วย 10,000 บาท/เดือน (สูงสุด 60,000 บาท)
คลอดบุตร 30,000 บาท/ครั้ง
ทุพพลภาพ 10,000 บาท/เดือน
เสียชีวิต 120,000 บาท
ว่างงาน สูงสุด 10,000 บาท/เดือน
บำนาญชราภาพ
ส่งสมทบ 15 ปี 4,000 บาท/เดือน
ส่งสมทบ 25 ปี 7,000 บาท/เดือน
ขั้นที่ 3 (เริ่มปี 2575 เป็นต้นไป)
เพดานค่าจ้าง 23,000 บาท
เงินสมทบสูงสุดต่อเดือน 1,150 บาท
สิทธิประโยชน์ที่ปรับเพิ่ม เช่น
เจ็บป่วย สูงสุด 11,500 บาท/เดือน (383 บาท/วัน) นาน 180 วัน รวม 69,000 บาท
คลอดบุตร 34,500 บาท/ครั้ง
ทุพพลภาพ 11,500 บาท/เดือน
เสียชีวิต 138,000 บาท
ว่างงาน สูงสุด 11,500 บาท/เดือน
บำนาญชราภาพ
ส่งสมทบ 15 ปี 4,600 บาท/เดือน
ส่งสมทบ 25 ปี 8,050 บาท/เดือน