กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 2 ส.ค.68

02 ส.ค. 2568 | 10:09 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2568 | 10:22 น.

กองทัพภาคที่ 2สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 2 ส.ค.68 ไม่มีปชช.ได้รับบาดเจ็บ-เสียชีวิตเพิ่มเติม พร้อมเตรียมมาตรการเชิงรับและเชิงรุก รับมือโดรน

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2568  ณ เวลา 14.00 น.โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

มาตรการรับมือโดรน
จากการที่ตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับประเภท โดรน ปรากฏขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงในห้วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 

สำนักงานการบินพลเรือนจึงออกประกาศ เรื่อง ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก โดรน ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ  ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ได้จัดการประชุมร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ทั้ง 20 จังหวัด ตำรวจภูธร ภาค 3, ภาค 4 และ กสทช. ซึ่งได้กำหนดมาตรการในการป้องกันทั้งเชิงรับและเชิงรุก

การอพยพประชาชน
ดำเนินการสนับสนุนส่วนราชการจังหวัดในการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน พื้นที่ตอนในทั้ง 4 จังหวัด  คือ 

  • จ.บุรีรัมย์ 1 จุด 3,519 คน
  • จ.สุรินทร์ 156 จุด 44,887 คน
  • จ.ศรีสะเกษ 267 จุด 46,849 คน 
  • จ.อุบลราชธานี 71 จุด 19,321 คน 

ปัจจุบัน ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือนแล้ว จำนวน 114,576 คน (ลดลง 16,197 คน) โดยไม่มีพื้นที่ของประชาชนที่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม และไม่มีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จิตอาสาพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงพระราชทานสิ่งของ ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดน, เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลประชาชน และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์  อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทางสำนักพระราชวังได้จัดผู้แทนพระองค์มามอบสิ่งของพระราชทาน นอกจากนี้มีการจัดส่งเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ติดแนวชายแดน โดยมีผู้ว่าราชการทั้ง 4 จังหวัด อำนวยการนำไปมอบให้แก่ประชาชน

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ "ช่องอานม้า"

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติในพื้นที่ “ช่องอานม้า” ก่อนเกิดเหตุปะทะจนถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 กำลังทหารของไทยไม่เคยสามารถเข้าไปยึดพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ “ตาอม” ได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาวางกำลังตรึงพื้นที่ไว้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด 

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้นำคณะทูตทหารจาก 13 ประเทศเข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่ โดยพบว่าพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ “ตาอม” ขณะนั้น มีกำลังทหารไทยควบคุมพื้นที่ทั้งหมดแล้ว โดยฝ่ายเราได้ยึดแนวเส้นปฏิบัติการเป็นหลักได้เรียบร้อย ในพื้นที่ “ช่องอานม้า” เพื่อป้องกันเหตุปะทะและรักษาเสถียรภาพในพื้นที่อ่อนไหว ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงแนวทางปฏิบัติร่วมกันไว้ คือ การจัดให้มีจุดประสานงานร่วมบริเวณอนุสาวรีย์ “ตาอม” 

  1. จัดกำลังฝ่ายละ 5 นายเข้าไปในพื้นที่ร่วมตรวจสอบ เพื่อป้องกันการเพิ่มเติมกำลัง 
  2. ไม่มีการพกพาอาวุธ เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องงดเว้นการพกพาอาวุธในขณะปฏิบัติภารกิจ 
  3. ประสานงานร่วมกันทั้งสองฝ่าย โดยสามารถพบปะกันได้ตลอดเวลา
     

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ "ช่องอานม้า"

ส่งทหารกัมพูชา 2 นายกลับประเทศ

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 10.30 น. ได้มีการส่งมอบทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัว จำนวน 2 นาย คงเหลืออยู่ในการควบคุม จำนวน 18 นาย ซึ่งผู้ถูกควบคุมทั้งหมด ได้รับการปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และตามหลักสิทธิมนุษยชน อย่างเคร่งครัด