เยียวยาแรงงาน เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา ประกันสังคมช่วยค่ารักษาพยาบาลฟรี

28 ก.ค. 2568 | 02:09 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.ค. 2568 | 02:14 น.

เยียวยาแรงงาน จากเหตุความรุนแรง ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด "พงศ์กวิน" สั่งทุกหน่วยงานออกมาตรการเร่งด่วน โดยเฉพาะประกันสังคม ออกค่ารักษาพยาบาลฟรี ช่วยเหลือผู้ประกันตน

วันนี้ (28 กรกฎาคม 2568) นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสั่งการให้ กรมการจัดหางาน, กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ช่วยเหลือทั้งในส่วนของลูกจ้างผู้ประกันตน นายจ้างสถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว และประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ

สำหรับ กรมการจัดหางาน ให้สนับสนุนพื้นที่จัดตั้งโรงครัวประกอบอาหารพร้อมกับประสานเคลื่อนย้ายแรงงานไทย หากประสงค์จะเดินทางไปทำงานนอกพื้นที่ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับประเทศ ของแรงงานกัมพูชาและประสาน ช่วยเหลือให้มีที่พักพิงระหว่างรอการส่งกลับ

รวมทั้งให้นายจ้างสถานประกอบการดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันในสถานประกอบการ และผ่อนผันให้แรงงานที่เข้ามาทำงานโดยใช้บัตรผ่านแดน (Border pass) ทั้งที่มีอายุหรือหมดอายุสามารถทำงานต่อไปได้

ขณะที่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดเตรียมสถานที่ของหน่วยงานในสังกัดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้อพยพ และสนับสนุนพื้นที่จัดตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัย

ส่วน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ดำเนินการด้านขอความร่วมมือนายจ้าง/สถานประกอบกิจการให้ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา หยุดงานโดยไม่ถือเป็นวันลาหรือความขัดต่อข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ดูแลลูกจ้าง และเฝ้าระวังการกระทบกระทั่งระหว่างลูกจ้างไทยและลูกจ้างกัมพูชา

พร้อมสั่งการให้ สำนักงานประกันสังคม แจ้งให้สถานพยาบาลในระบบประกันสังคมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้บริการแก่ผู้ประกันตนโดยไม่เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล และบันทึกการขอรับค่าบริการทางการแพทย์ผ่านระบบ MMS

รวมทั้งเร่งรัดการวินิจฉัยการขอรับค่าบริการทางการแพทย์กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน 72 ชั่วโมงในระบบ MMS ในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้สถานพยาบาลโดยเร็ว

ทั้งนี้ ลูกจ้างผู้ประกันตน นายจ้างสถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว และประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506