นายมงคล จุลทัศน์ ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า เท่าที่ทราบสถานการณ์แนวชายแดนอุบลราชธานี เมื่อคืนที่ผ่านมามีเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง กัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่เข้ามาฝั่งไทยตั้งแต่ประมาณ 03.00-04.00 น. พื้นที่แนววิถีกระสุนห้ามประชาชนเข้าและถูกปิด 100%
คาดว่าฝั่งกัมพูชาเปลี่ยนกำลังคนพร้อมพลทหารและอาวุธที่มากกว่าเดิม มากกว่าช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ต่างอำเภอหลายแห่งนอกเหนือจากพื้นที่อำเภอเมือง โดยเฉพาะอำเภอตามแนวชายแดนชาวบ้านได้ยินเสียงปืนและระเบิดชัดเจน
"เมื่อคืนที่ผ่านมาประชาชนค่อนข้างแตกตื่น และตอนนี้อพยพแล้ว โดยทหารแนวราบของไทยก็ยืนหยัดสู้เต็มกำลัง ซึ่งรอบนี้กัมพูชาเสริมกำลังมาอย่างแน่นหนา เริ่มต่อกรกับเราได้มากขึ้น แต่ละจุดไม่ใช่เรื่องง่าย สถานการณ์เหมือนจะยืดเยื้อไม่จบสักที ตามจุดชายแดนก็จับสปายได้อย่างต่อเนื่องหลายราย"
นายมงคล กล่าวว่า แม้จะมีข่าวออกมาว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อสายตรงถึงผู้นำ 2 ประเทศ เพื่อยุติการปะทะแลกกับการเจรจาเรื่องภาษี แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ภาษีกลายเป็นเรื่องรองการต่อสู้เพื่อแผ่นดินเป็นเรื่องใหญ่ ชาวบ้านบางคนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนบางคนลั่นวาจายอมพลีชีพ
ด้าน เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้มีผู้อพยพแล้วกว่า 1.7 หมื่นคน กระจายอยู่ตามศูนย์อพยพ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสานงานกับฝ่ายทหารประเมินสถานการณ์เป็นระยะ
โดยยังไม่มีประเด็นเรื่อง "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โทรหาผู้นำไทยและกัมพูชาเพื่อให้ยุติความขัดแย้งแต่อย่างใด สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดดยังอยู่ในความดูแลของทหาร