ใครมีสิทธิ์ถูกเรียกกำลังพลสำรอง หลังเกิดการสู้รบไทย-กัมพูชา

25 ก.ค. 2568 | 04:03 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2568 | 05:16 น.

ตรวจสอบระเบียบกองทัพ ใครมีสิทธิ์ถูกเรียกกำลังพลสำรอง หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ฐานเศรษฐกิจรวบรวมไว้ให้ล้วที่นี่

การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกับกัมพูชาตามแนวชายแดน หรือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 68 จนถึงล่าสุด 

โดยประเด็นดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านของความปลอดภัยของทหารไทย ประชาชนในพื้นที่ และทางด้านเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี อีกหนึ่งประเด็นคำถามที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นจากเหตุการณ์ปะทะกันของไทยและกัมพูชาก็คือ การเรียกกำลังพลสำรองเพื่อช่วยรบ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่า ระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร พ.ศ. 2560 และ ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยกิจการกำลังพลสำรอง พ.ศ. 2559 สามารถสรุปข้อมูลการเรียกกำลังพลสำรองได้ ประกอบด้วย 

ใครมีสิทธิ์ถูกเรียกกำลังพลสำรอง หลังเกิดเหตุสู้รบไทย-กัมพูชา

เมื่อมีเหตุการณ์สงครามหรือความไม่สงบเกิดขึ้น กระทรวงกลาโหม มีอำนาจในการออกคำสั่ง ระดมพล เพื่อเสริม กำลังพลประจำการ โดยจะดำเนินการเรียกพลกำลังพลสำรองตามขั้นตอน ดังนี้

  • ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ของพื้นที่ที่กำลังพลสำรองมีภูมิลำเนาอยู่
  • ออกหมายเรียกพล (ตพ.15) ส่งถึงผู้ถูกเรียก เพื่อปฏิบัติตามหมาย
  • ผู้ถูกเรียกต้องไปรายงานตัวตามสถานที่และเวลาที่กำหนด

สำหรับทหารกองหนุน ที่ปลดจาก ทหารเกณฑ์ (หรือเรียกว่า ทหารกองหนุนประเภทที่ 1) จะมีการจัดลำดับตามอายุ ดังนี้

  • อายุต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์
  • อายุ 30 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 40 ปี
  • อายุ 40 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 46 ปี
  • พ้นกำหนดการรับราชการทหาร: อายุเกิน 46 ปีบริบูรณ์ โดยปกติ กำลังพลสำรอง ที่อายุน้อยกว่ามักถูกเรียกตัวก่อน เนื่องจากมีความพร้อมและทักษะทางทหารยังคงสดใหม่

อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องระดมพลเต็มรูปแบบ กองทัพจะพิจารณาจาก

  • ความต้องการกำลังพลเฉพาะทาง เช่น แพทย์สนาม, ช่างซ่อมบำรุง, หน่วยรบพิเศษ
  • ความพร้อมด้านสุขภาพ
  • ภูมิลำเนาของทหาร
  • สถานะครอบครัวและสังคม (บางกรณีอาจขอผ่อนผันได้)

ใครมีสิทธิ์ถูกเรียกกำลังพลสำรอง หลังเกิดเหตุสู้รบไทย-กัมพูชา

กำลังพลสำรองคืออะไร

กำลังพลสำรอง หรือทหารกองหนุน คือ ผู้ที่เคยผ่านการเป็นทหารแล้ว แต่ปลดประจำการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย

  • ผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหาร (ร.ด.) ตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป และขึ้นทะเบียนกองประจำการจนปลดเป็นทหารกองหนุน
  • ผู้ที่ปลดจากกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

กำลังพลสำรอง ไม่ว่าจะเป็น ทหารเกณฑ์ปลดประจำการ หรือ นักศึกษาวิชาทหาร (ร.ด.) ต่างถือเป็นส่วนสำคัญในการเสริม กองทัพไทย และมีโอกาสถูกเรียกตัวหากประเทศต้องเผชิญ ภัยคุกคามทางความมั่นคง หรือสงคราม ดังนั้นผู้ที่อยู่ในสถานะนี้ควรรู้สิทธิ หน้าที่ และเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ หากวันหนึ่งต้องกลับไปปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติอีกครั้ง