การรับมรดกที่ดินมีอายุหรือไม่หลัง แม่ เสียชีวิต แต่ลูกไม่ได้ไปทำเรื่องรับโอนมรดก กรมที่ดิน ไขคำตอบแล้วอ่านที่นี่วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรมที่ดิน ได้ไขคำตอบว่า เมื่อมารดาเสียชีวิตแต่ลูกยังไม่ได้ไปทำเรื่องโอนมรดกที่ดินมีอายุหรือไม่นั้น
กรมที่ดิน แจ้งว่าโฉนดที่ดินเป็นชื่อแม่และเสียชีวิตแล้วแต่ลูกไม่ได้ไปทำเรื่องรับโอนมรดกอยากทราบว่าการรับมรดกมีอายุหรือไม่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลา ในการขอรับมรดกของทายาทไว้ แต่หากทายาทประสงค์จะทำนิติกรรมอื่น เช่น ขาย จำนอง ฯลฯก็จะไม่สามารถดำเนินการได้จนกว่าจะมีการจดทะเบียนรับมรดก ให้ปรากฎหลักฐานเสียก่อน
การรับมรดกที่ดินเมื่อผู้ถือครองเสียชีวิต เมื่อเจ้าของที่ดินหรือผู้มีชื่อในเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ( เช่น โฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 หรือ น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข.) เสียชีวิตลงไปที่ดินแปลงนั้นก็จะเป็นมรดก ซึ่งจะตกทอดแก่ทายาทของผู้ตาย โดยสิทธิตามกฎหมายหรือโดยพินัยกรรมที่เจ้ามรดกทำไว้ ทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมายหรือทายาทโดยธรรมมี 6 ลำดับ แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลัง ดังต่อไปนี้
• ผู้สืบสันดาน (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ)
• บิดา มารดา
• พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
• พี่น้องร่วมบิดา หรือร่วมมารดาเดียวกัน
• ปู่ ย่า ตา ยาย
• ลุง ป้า น้า อา
หลักฐานที่ต้องนำไปประกอบการขอรับมรดก
1.ถ้าผู้ขอ ขอรับมรดกในฐานะเป็นคู่สมรส ต้องมีหลักฐานการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
2.ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบิดาเจ้ามรดก ต้องมีทะเบียนสมรสกับมารดาของเจ้ามรดกหรือหลักฐานการรับรองบุตร
3.กรณีบุตรบุญธรรมเป็นผู้ขอรับมรดก ต้องแสดงหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
4.ถ้ามีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดก ต้องนำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดไปแสดง
5.ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคน บางคนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ต้องมีหลักฐานการตายของทายาทนั้น ๆ
ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน
•ค่าคำขอ แปลงละ 5 บาท
•ค่าประกาศมรดก แปลงละ 10 บาท
•ค่าจดทะเบียนผู้จัดการมรดก แปลงละ 50 บาท
•ค่าจดทะเบียนโอนมรดก ร้อยละ 2 ตามราคาประเมินทุนทรัพย์
•ในกรณีโอนมรดกระหว่างผู้บุพการีกับผู้สืบสันดาน หรือระหว่างคู่สมรส เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ร้อยละ 0.5.
ที่มา: กรมที่ดิน