กรมอุตุฯอัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อนหวู่ติบ 9 จว. อีสานฝนตกหนักบางแห่ง

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้อัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อนกำลังแรง "หวู่ติบ" (WUTIP หมายถึงผีเสื้อ ตั้งชื่อโดยเขตบริหารพิเศษมาเก๊า)" เมื่อเวลา 06.00 น. มีศูนย์กลางในทะเลจีนใต้ตอนบน เคลื่อนตัวทางทิศเหนือ กำลังจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำในวันนี้ (13 มิ.ย.68)  คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในเช้าวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.68) 

 

ขอให้ท่านที่จะเดินทางไปในบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง  แม้ศูนย์กลางของพายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่ขอบด้านหน้าของพายุ หรือลมที่พัดเข้าศูนย์กลางพายุ (ลมตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้) ยังมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคอีสานตอนบน และด้านตะวันออกุ (จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ) มีเมฆมากและมีฝนหนักบางแห่งได้ ลมแรงขึ้น ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
 

ต่อมาเมื่อเวลา 06.30 น.กรมอุตุนิยมวิทยา ได้อัปเดตภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงเช้าของวันนี้ พบเมฆและฝนปกคลุมบริเวณภาคอีสานตอนบนและด้านตะวันออก มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมและพัดเข้าหาศูนย์กลางพายุโซนร้อนกำลังแรง "หวู่ติบ (WUTIP)" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ซึ่งกำลังจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ในวันนี้ (13/6/68) และคาดว่าจะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในเช้าวันพรุ่งนี้ (14/6/68) เตือนผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไหหลำ หรือประเทศจีนตอนใต้ในระยะ 1-3 วันนี้ ตรวจสอบสภาพก่อนออกเดินทาง

 

อัปเดตล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 13 เรื่อง พายุ “หวู่ติบ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน

 

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (13 มิ.ย. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกของเกาะไหหลำ ประมาณ 60 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 18.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.1 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในวันพรุ่งนี้(14 มิ.ย. 68) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

 

ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย โดยศูนย์กลางของพายุลูกนี้จะ ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่อาจทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง 

 

ทั้งนี้ หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง กรมอุตุนิยมวิทยาจะมีการแจ้งเตือนทันที จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่  0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.

 

 

ขณะที่สภาพอากาศในประเทศไทยในวันนี้ 13 มิถุนายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศตั้งแต่เวลา 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

• มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
• บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
• อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
• ลมแปรปรวน ความเร็ว 5-15 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

• มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง 
• บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์  ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
• อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
• ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

• มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี
• สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม
• อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส 
• ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก

• มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
• บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
• อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส  
• ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. 
• ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

• มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
• ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี 
• อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส  
• อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
• ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
• ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

• มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
• บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา  
• อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
• อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
• ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
• ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

• มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
• อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส 
• อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส 
• ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.