ตำนาน"ช่องบก"พื้นที่ประวัติศาสตร์ จาก สมรภูมิไทย-เวียดนาม สู่พื้นที่ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา

08 มิ.ย. 2568 | 10:50 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มิ.ย. 2568 | 11:17 น.

เปิดตำนาน"ช่องบก" จากสมรภูมิไทย-เวียดนามสู่พื้นที่ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา พื้นที่ประวัติศาสตร์ -พื้นที่เศรษฐกิจ ชายแดนไทย หุบเขาสูงในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ขนานนาม สามเหลี่ยมมรกต เชื่อม3ประเทศ

 

 นับเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย สำหรับ “ช่องบก” เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี  ที่เรียกว่าสามเหลี่ยมมรกต (Emerald Triangle) แปลว่า สามมุม  เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างชายแดนประเทศไทย สปป.ลาว และกัมพูชา มีพื้นที่ประมาณ 12 ตารางกิโลเมตร โดยพื้นที่ส่วนที่อยู่ในเขตแดนประเทศไทยคือ พื้นที่ในอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี 

ช่องบก (ภาพกองทัพบก)

โดยสปป.ลาว คือบริเวณเมืองมูลประโมกข์ แขวงจำปาศักดิ์ ส่วนพื้นที่กัมพูชาคือเมืองจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร สามเหลี่ยมมรกตตั้งชื่อเลียนแบบ สามเหลี่ยมทองคำซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อของไทย ลาว และเมียนมา  ในภาคเหนือปัจจุบันบริเวณสามเหลี่ยมมรกตถูกประเทศ 1 ใน 3 คือ ประเทศกัมพูชาอ้างสิทธิพื้นที่ทั้งหมดจนรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยและสปป.ลาวจนทำให้เกิดข้อพิพาท อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาผ่านกลไกลทางการทูต

 

ในช่วงปี พ.ศ. 2528 - 2530 ช่องบกเคยเป็นสนามรบระหว่างไทยกับเวียดนามที่ขณะนั้นเข้ายึดครองกัมพูชา ใน "สมรภูมิช่องบก" โดยทางเวียดนามได้รุกล้ำเข้ามาในพรมแดนไทย สุดท้ายกองทัพไทยสามารถขับไล่ทหารเวียดนามกลับไปได้ แม้ต้องแลกด้วยความสูญเสีย โดยฝ่ายไทยมีทหารเสียชีวิต 109 นาย และบาดเจ็บ 664

ตำนานสมรภูมิช่องบก

ปัจจุบัน ช่องบกยังคงเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีข้อพิพาทและพื้นที่ทับซ้อนเรื่องการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียด หรือการปะทะกันได้เป็นครั้งคราว โดยมี 3 ปัจจัยหลักคือ พื้นที่พิพาท ยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจน ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิในพื้นที่ การเคลื่อนไหวทางทหาร ทั้งสองประเทศยังคงมีการตรึงกำลังทหารเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันอธิปไตย และความเข้าใจผิด เหตุการณ์ปะทะอาจเกิดจากความเข้าใจผิดหรือการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างเจ้าหน้าที่ภาคสนาม

ปัจจุบัน ช่องบก กำลังเป็นกระแสร้อน กลายเป็นพื้นที่พิพาทแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จากการรุกล้ำอธิปไตย จนเกิดเหตุปะทะ กันเป็นเวลา 10 นาที เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีคำสั่งหยุดยิง และนำไปสู่คำสั่ง ของฝั่งของกองทัพบกมีคำสั่ง ลดเวลาปิด-เปิด จุดผ่านแดนไทย-กัมพูชาทั่วประเทศ ในเวลาต่อมา

สำหรับ “ช่องบก”เชื่อมโยง 3 ประเทศ ในส่วนของประเทศไทย จุดหลักของช่องบกอยู่ที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีสถานที่สำคัญเช่น จุดชมวิวเนิน 500 อ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนบน โดยครอบคลุมจังหวัดและแขวง ของประเทศต่าง ๆ ดังนี้

  • ประเทศไทย : จังหวัดอุบลราชธานี (โดยเฉพาะอำเภอน้ำยืน) และจังหวัดศรีสะเกษ มีจุดผ่านแดนกับกัมพูชาที่จอม คือ จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ และจุดผ่านแดนกับลาวที่วังเต่า คือ จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อุบลราชธานี
  • สปป. ลาว : แขวงจำปาศักดิ์ (โดยเฉพาะเมืองมูลประโมกข์) และแขวงสาละวัน มีจุดผ่านแดนกับกัมพูชาระหว่างดอนกระลอกับเวินคำ
  • ประเทศกัมพูชา : จังหวัดพระวิหาร (โดยเฉพาะเมืองจอมกระสานต์) จังหวัดอุดรมีชัย และจังหวัดสตึงเตร็ง

อย่างไรก็ตาม “ช่องบก” ก็เป็นพื้นที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง 3 ประเทศ โดยเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 มีนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นผู้เสนอ โดยฝ่ายไทยนั้นคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อ 12 กุมภาพันธ์​ พ.ศ.​ 2545 และดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับหน่วยงานของไทยที่รับผิดชอบความร่วมมือดังกล่าว คือ กระทรวงการต่างประเทศ และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานระดับนานาชาติที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การการท่องเที่ยวโลก (World Tourism Organization หรือ WTO) และ UNDP เป็นต้น

"ช่องบก" ในเวลานี้ทหารไทย นำโดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 ตรึงกำลังอย่างเข้มแข็ง แม้ ฝั่งกัมพูชาประกาศขอเจรจาและยอมถอยออกจากพื้นที่รุกล้ำเขตแดนไทยก็ตาม