เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ภายในซอยฉลองกรุง 55 ย่านลาดกระบัง หลังเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยผู้ว่าฯ เปิดเผยว่า เพิ่งเดินทางกลับจากการประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นและได้มุ่งหน้าตรงมายังจุดเกิดเหตุทันที โดยระบุว่าเห็นกลุ่มควันจากบนเครื่องบินชัดเจน
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวเก็บวัสดุที่ติดไฟง่าย เช่น เม็ดพลาสติกจำนวนมาก จึงส่งผลให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว แม้ขณะนี้เพลิงจะยังไม่สงบ แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว โดยพยายามฉีดน้ำเลี้ยงไม่ให้ไฟลุกลามต่อ ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้อพยพประชาชนบริเวณชุมชนริมคลองลำปลาทิวที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุแล้วกว่า 140 หลังคาเรือน เนื่องจากมีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากควันพิษ
รายงานจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม โดยต้นเพลิงอยู่ใกล้ปล่องลิฟต์บริเวณทางออก 3 ของโกดัง แต่เนื่องจากทางเข้าค่อนข้างแคบ ทำให้รถดับเพลิงเข้าไม่ถึง ต้องฉีดน้ำจากภายนอก ซึ่งไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ในเบื้องต้น ส่งผลให้เพลิงลุกลามอย่างรุนแรง ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น.
เจ้าหน้าที่จึงระดมรถน้ำจากเขตต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ กว่า 100 คัน เพื่อช่วยฉีดน้ำควบคุมสถานการณ์ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ กทม. ลงพื้นที่ร่วมอำนวยการ อาทิ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร
ต่อมาเวลา 23.58 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร รายงานว่า เพลิงเริ่มอยู่ในวงควบคุม และในช่วงเช้าวันที่ 12 พฤษภาคม ได้มีการวางแผนร่วมกับสำนักงานเขตลาดกระบังเพื่อเจาะกำแพงด้านข้างของอาคารให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. ยังมีเปลวเพลิงช่วงท้ายโรงงานและมีกลุ่มควันหนาแน่น โดยสำนักงานเขตลาดกระบังได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 4 แห่ง ได้แก่
ในศูนย์พักพิงมีการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ที่นอน และน้ำดื่ม รวมถึงทีมแพทย์จากศูนย์เอราวัณเข้าตรวจสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงสวมหน้ากากอนามัย และระมัดระวังผลกระทบจากควันพิษ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงปฏิบัติงานเต็มที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด